งานเฉลิมฉลองและขบวนพาเหรดแห่งชาติเพื่อรำลึกครบรอบ 50 ปีวันปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเป็นเอกภาพ 30 เมษายน ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่เช้าวันนี้ 30 เมษายน ณ นครโฮจิมินห์ โดยมีเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ประธานประเทศเลืองเกื่อง นายกรัฐมนตรีฝามมิงห์ชิ้ง ประธานสภาแห่งชาติเจิ่นแทงเหมิม บรรดาอดีตผู้นำพรรคและรัฐ นักปฏิวัติอาวุโส คุณแม่วีรชนเวียดนาม วีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชน วีรชนแรงงาน นายพลทหาร ตัวแทนขององค์กรการเมือง สังคมและผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติจำนวนมากเข้าร่วม

สำหรับผู้แทนระหว่างประเทศมีนาย ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศลาว สมเด็จฮุนเซน หัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชา นายซัลวาดอร์ วัลเดส เมซา รองประธานประเทศคิวบา นาย อิปาตาว วาด์ซิม รองประธานสภาดูมาแห่งสาธารณรัฐเบลารุส รัฐมนตรีกระทรวงกิจการด้านบุคลากรทหารปลดประจำการของจีน ผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆของหลายประเทศ เอกอัครราชทูต หัวหน้าหน่วยงานตัวแทน องค์กรระหว่างประเทศ เพื่อนมิตรต่างชาติจำนวนมากที่สนับสนุนเวียดนามในการต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยชาติและสร้างสรรค์ชาติ

เลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิมได้ยืนยันว่า การปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวคือนิมิตหมายที่แจ่มจรัสที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์และปกป้องปิตุภูมิ เป็นหลักหมายแห่งการยุติกระบวนการต่อสู้เพื่อเอกราช เสรีภาพ และการรวมชาติที่ดำเนินการมาอย่างยาวนาน 30 ปี อันเป็นการยุติการปกครองของลัทธิอาณานิคมทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ที่ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ

เลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิมแสดงความสำนึกขอบคุณส่วนอุทิศที่ยิ่งใหญ่ของประธานโฮจิมินห์ จดจำและสำนึกอย่างลึกซึ้งในส่วนร่วมมากมายของบรรดาผู้นำแห่งการปฏิวัติรุ่นอาวุโส วีรบุรุษผู้พลีชีพเพื่อชาติ คุณแม่วีรชนเวียดนาม วีรชนแห่งกองกำลังติดอาวุธประชาชน ทหารทุพลภาพ ครอบครัวที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติ และกองกำลังติดอาวุธประชาชนทุกหน่วย ประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งชาวเวียดนามโพ้นทะเลที่อุทิศและเสียสละชีวิตเพื่อภารกิจการปลดปล่อยภาคใต้อย่างสมบูรณ์และรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว เลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิมยังได้กล่าวขอบคุณอย่างสุดใจต่อการสนับสนุนและความช่วยเหลืออันล้ำค่าของมิตรสหายต่างประเทศ ของผู้ที่ก้าวหน้าและผู้ที่รักสันติภาพทั่วโลกสำหรับภารกิจการปลดปล่อยชาติและรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวของประชาชนเวียดนาม

“เวลาจะผ่านพ้นไป แต่ชัยชนะของประชาชนเวียดนามจะได้บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติตลอดไป ในการเป็นสัญลักษณ์ที่รุ่งโรจน์ของลัทธิวีรภาพการปฏิวัติ เป็นชัยชนะแห่งความเป็นธรรม ชัยชนะของจิตใจแห่งความวีระกล้าหาญและสติปัญญาของชาวเวียดนาม ความรักชาติอย่างเปี่ยมล้น ความปรารถนาในเอกราช เสรีภาพและการรวมประเทศเป็นปึกแผ่นด้วยความจริงที่ว่า ประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งเดียว ประชาชาติเวียดนามเป็นหนึ่งเดียว เป็นนิมิตหมายเพื่อยืนยันว่าพรรค ประชาชน และกองทัพเวียดนามทั้งปวงได้ปฏิบัติตามความปรารถนาและโอวาทของประธานโฮจิมินห์นั่นคือปลดปล่อยภาคใต้อย่างสมบูรณ์ รวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว ภาคเหนือและภาคใต้ได้รวมอยู่ในชายคาเวียดนามเดียวกัน”

ในยุคปัจจุบันภายหลัง 50 ปีการรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว และเกือบ 40 ปีของการปฏิบัติภารกิจโด๋ยเม้ย ประเทศเวียดนามได้ฝ่าฟันทุกความยากลำบากและความท้าทายต บรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างศักยภาพ สถานะบทบาทและชื่อเสียงในระดับนานาชาติดังเช่นปัจจุบัน ด้วยความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของชาติ ความสำนึกในบุญคุณที่ไม่มีที่สิ้นสุดต่อการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของทหารของพี่น้องร่วมชาติทั้งประเทศ คนรุ่นปัจจุบันยิ่งตระหนักมากขึ้นถึงความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามโอวาทของประธานโฮจิมินห์ก่อนที่ท่านจะจากไปว่า พรรคจะต้องมีแผนงานที่ดีในการพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรม เพื่อตอบสนองความต้องการในการดำรงชีวิตทั้งทางวัตถุและจิตใจของประชาชนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่ชายแดน เกาะแก่ง ฐานที่มั่นปฏิวัติในอดีต

“เวียดนามเข้าใจและตระหนักอย่างลึกซึ้งในการปฏิบัติตามทัศนะที่ว่าประชาชนคือรากฐาน มนุษย์เป็นศูนย์กลางเป็นแกนหลักและเป็นเป้าหมายของกระบวนการพัฒนาและพิทักษ์รักษาประเทศอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ยึดมั่นปฏิบัตินโยบายสามัคคีปรองดองชาติอย่างเข้มแข็งบนพื้นฐานจิตใจที่ว่าเราทุกคนต่างร่วมสายเลือดหลากห่งต่างเป็นพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน ด้วยแนวทางปิดฉากอดีต เคารพความแตกต่างเพื่อก้าวไปสู่อนาคต ทั้งพรรค  ประชาชน และกองทัพเวียดนามมุ่งมั่นร่วมกันสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามเอกภาพที่สันติสุข เจริญรุ่งเรืองและพัฒนา”

เลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิมย้ำว่า เวียดนามปรารถนาที่จะร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศสร้างสรรค์อนาคตแห่งสันติภาพ สามัคคี เจริญรุ่งเรืองและพัฒนา มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพกับประเทศต่างๆทั่วโลกด้วยแนวทางเวียดนามพร้อมเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งมีความรับผิดชองของประชาคมโลก ปรับปรุงกลไกและนโยบายเพื่อสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยให้มิตรประเทศและชุมชนชาวเวียดนามในต่างประเทศสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในภารกิจการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเวียดนาม เลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิมมั่นใจว่าด้วยเกียรติประวัติที่รุ่งโรจน์ด้วยสติปัญญาความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเวียดนามจะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าในศักราชใหม่ ยุคแห่งความเจริญเข้มแข็ง แห่งอารยธรรมและการผงาดของชาติ สร้างสรรค์เวียดนามนับวันเจริญสวยงามยิ่งขึ้นและทัดเทียมกับมหาอำนาจในทั่วโลกดั่งความปรารถนาของประธานโฮจิมินห์และความคาดหวังของทั้งประชาชาติ

หลังคำปราศรัยของเลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิม ก็เป็นคำปราศรัยของตัวแทนกองกำลังที่เข้าร่วมในยุทธการโฮจิมินห์และตัวแทนของคนรุ่นใหม่ของเวียดนาม พลตรีเจิ่นหงอกโถ อดีตเสนาธิการใหญ่กองทัพภาคที่ 7 ตัวแทนกองกำลังที่เข้าร่วมในยุทธการโฮจิมินห์ยืนยันว่าความทรงจำในช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ที่กล้าหาญนั้นจะไม่มีวันจางหายไปในหัวใจของชาวเวียดนาม พร้อมทั้งได้ย้ำว่าเขาจดจำน้ำใจความช่วยเหลือของประชาชนทั่วประเทศที่ยอมเสียสละเพื่อปกป้องคุ้มครองและเลี้ยงดูทหารในตลอดช่วงสงครามกู้ชาติโดยยืนยันว่า “หากไม่มีประชาชนเราก็ไม่มีวันนี้” “คนรุ่นของเราภาคภูมิใจและขอยืนยันว่าเราได้ปฏิบัติภารกิจในการต่อสู้อย่างสำเร็จด้วยชัยชนะ และการรวมชาติเป็นหนึ่งเดียวและสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนา เราเชื่อมั่นว่าคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันและอนาคตจะสืบทอดและส่งเสริมเกียรติประวัติของคนรุ่นก่อนของประชาชาติของจิตใจแห่งความมุ่งมั่นต่อสู้เพื่อชัยชนะของกองทัพประชาชนเวียดนาม ทุ่มเทพลังอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสรรค์พัฒนาประเทศให้มั่งคั่ง รุ่งเรือง และมีความผาสุกมากขึ้น นำประเทศก้าวสู่ยุคใหม่อย่างมั่นคงที่ทัดเทียมกับมหาอำนาจต่างๆในทั่วโลก” 

เวลา 08.00น. ขบวนพาเหรด เริ่มขึ้นด้วยการแสดงการบินผาดโผนของฝูงบินรบและฝูงเฮลิคอปเตอร์พร้อมธงแห่งพรรคและธงชาติ ตามด้วยกลุ่มรถพิธีการ ประกอบด้วย รถจำลองตราสัญลักษณ์ประจำชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รถที่มีภาพประธานโฮจิมินห์ รถสัญลักษณ์ 50 ปีแห่งการปลดปล่อยภาคใต้

ขบวนพาเหรดมีผู้เข้าร่วม 13,000คน แบ่งเป็น 50 กลุ่มเดินพาเหรดจากถนนเลหยวนผ่านสถานที่จัดงานบริเวณด้านหน้าทำเนียบเอกราชในเขต 1 ไปยังถนนสายต่างๆโดยมีประชาชนยืนต้อนรับตลอดทุกเส้นทาง.