นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวปราศรัยในฟอรั่มการค้าและการลงทุนเวียดนาม–อินดีย

(VOVworld) – วันที่๒๘เดือนนี้ ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดียได้มีการจัดพิธีต้อนรับท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่เดินทางไปเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่านนาเรนดรา โมดีนายกรัฐมนตรีอินเดีย หลังพิธีต้อนรับนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านมีการเจรจาและเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือฉบับต่างๆ

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่๒๗เดือนนี้ ที่กรุงนิวเดลี ในกรอบการเยือน ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงได้เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในฟอรั่มการค้าและการลงทุนเวียดนาม–อินดียโดยมีนักธุรกิจนับร้อยคนของทั้งสองประเทศเข้าร่วมโดยเหงวียนเติ๊นหยุงได้กล่าวว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับอินเดียอยู่เสมอซึ่งถือเป็นความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายต่างประเทศแห่งชาติ ปัจจุบัน อินเดียเป็นหนึ่งใน๑๐หุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ของเวียดนามโดยเมื่อปี๒๐๑๓ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่๕.๒๔พันล้านเหรียญสหรัฐ และทั้งสองฝ่ายตั้งใจที่จะเพิ่มขึ้นเป็น๗พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี๒๐๑๕และ๑หมื่น๕พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี๒๐๒๐

เพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์จากกลไกทวิภาคีและพหุภาคีที่มีอยู่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ การปฏิบัติข้อตกลงทางการค้า การเลี่ยงเก็บภาษีซ้ำซ้อน และคุ้มครองการลงทุน การทูต การท่องเที่ยว การเดินเรือ การค้าและการบริการการบิน ทั้งสองฝ่ายจะประสานผลประโยชน์ซึ่งกันและกันในฟอรั่มเศรษฐกิจภูมิภาคและโลก จัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน– อินเดีย เจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านภูมิภาค ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงได้ยืนยันว่า“เวียดนามกำลังพยายามร่วมกับประเทศสมาชิกปฏิบัติเป้าหมายสร้างสรรค์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี๒๐๑๕ให้ประสบผลสำเร็จ เวียดนามพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมเพื่อให้นักธุรกิจอินเดียเจาะตลาดนี้ นอกจากการปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรี๘ฉบับที่ได้ลงนามแล้ว เวียดนามกำลังเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีใหม่อีก๖ฉบับกับสหภาพยุโรปหรืออียู กลุ่มการค้าเสรียุโรป สหภาพศุลกากรรัสเซีย เบลารุส คาซักสถานหรือวีซียูเอฟทีเอ และกับสาธารณรัฐเกาหลีหรือวีเคเอฟทีเอ รวมทั้งข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพี เวียดนามจะกลายเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญในเครือข่ายเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจอันกว้างใหญ่กับ๕๕หุ้นส่วน รวมทั้ง๑๕ประเทศสมาชิกจี๒๐ พวกเรามีความประสงค์ว่า นักธุรกิจอินเดียจะเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในเวียดนามและร่วมใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบของตลาดเวียดนามและโอกาสเข้าถึงตลาดหุ้นส่วนต่างๆของเวียดนาม”

ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงยังเสนอให้นักธุรกิจทั้งสองประเทศผลักดันความร่วมมือลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีชีวภาพ การผลิตเครื่องจักร เคมีภัณฑ์ เภสัชภัณฑ์ ไฟฟ้า ปิโตรเลี่ยม แปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรสัตว์น้ำและชื่นชมแผนเปิดเที่ยวบินมานครโฮจิมินห์ในเดือนพฤศจิกายนนี้ของเจ็ต แอร์เวย์ที่ ส่วนเวียดนามแอร์ไลน์ก็จะเปิดเที่ยวบินไปยังอินเดียโดยเร็วและแจ้งให้ทราบว่า เครือบริษัททาทาของอินเดียและกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามกำลังเร่งจัดทำระเบียบการต่างๆให้แล้วเสร็จเพื่อปฏิบัติโครงการบีโอทีก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนลองฟู้ที่ใช้เงินทุน๑.๘พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งจะเป็นโครงการใหญ่ที่สุดของอินเดียในเวียดนามปัจจุบันและแสดงให้เห็นว่า นักธุรกิจอินเดียนับวันยิ่งให้ความสนใจถึงตลาดเวียดนามที่มีศักยภาพ

ในวันเดียวกัน ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงได้ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่บริหารเครือบริษัทอุตสาหกรรม จักรกล ไฟฟ้าทาทา เครือบริษัทอีเอสเอสเออาร์ด้านไฟฟ้า ปิโตรเลี่ยม เหล็ก การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือทะเลและซอฟแวร์ เครือบริษัทไอเอลเอฟเอสซึ่งเป็นเครือบริษัทชั้นนำของอินเดียด้านบริการการเงิน การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและเจ้าของสายการบินเจ็ตแอร์ ในวันเดียวกัน ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงได้เดินทางไปเยือนสถานทูตเวียดนามประจำอินเดีย./.

แถ่งจูงผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามรายงานจากกรุงนิวเดลลี