พัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-เนเธอร์แลนด์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Chia sẻ
(VOVworld) –  พัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-เนเธอร์แลนด์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  พัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-เนเธอร์แลนด์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ảnh 1
นายกรัฐมนตรีเนเธอแลนด์มาร์ก รูทท์และท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนาม(Photo:TTX)

(VOVworld) –  เช้าวันที่๑๖เดือนนี้ ท่านมาร์ก รูทท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอแลนด์ได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา๒วันในระหว่างวันที่๑๖ถึงวันที่๑๗เดือนนี้ตามคำเชิญของท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกด้านให้พัฒนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นและแลกเปลี่ยนปัญหาระหว่างประเทศที่ให้ความสนใจร่วมกัน

            หลังพิธีต้อนรับ บ่ายวันที่๑๖เดือนนี้ ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีมาร์ก รูทท์ได้มีการเจรจากันโดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ อำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจและนักลงทุนของทั้งสองประเทศเชื่อมโยงหุ้นส่วน ยกระดับประสิทธิภาพของการประกอบธุรกิจและการลงทุน ผลักดันและปฏิบัติโครงการร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การบริหารจัดการน้ำ การเกษตร พลังงาน เศรษฐกิจทางทะเล การต่อเรือ กลาโหม ความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อประกาศผลของการเจรจานายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ย้ำว่า  ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการในด้านการเกษตรและความมั่นคงด้านอาหารซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในความร่วมมือในเวลาข้างหน้า ทั้งสองประเทศจะผลักดันความร่วมมือในด้านอื่นๆ เช่น ปิโตรเลี่ยม ท่าเรือทะเล การต่อเรือและการบริการโลจิสติก และจะขยายความร่วมมือในฟอรั่มและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ สหประชาชาติ อาเซม อาเซียนและอียู ท่านเหงวียนเติ้นหยุงยืนยันว่า“ผมและนายกรัฐมนตรีเนเธอแลนด์ได้ร่วมกันแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในทะเลตะวันออกปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีเนเธอแลนด์ได้ยืนยันถึงจุดยืนที่สอดคล้องกับแถลงการณ์ของสหภาพยุโรปหรืออียูเมื่อวันที่๘พฤษภาคมปี๒๐๑๔และสนับสนุนเนื้อหาของแถลงการณ์ของบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เมื่อวันที่๑๐พฤษภาคมปี๒๐๑๔เกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออกโดยเร่งรัดให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะ อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ ใช้ความอดกลั้น และหลีกเลี่ยงการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพ ไม่ใช้กำลังหรือขู่ใช้กำลัง ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในเขตทะเลตะวันออก การปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ และความจำเป็นที่จะต้องเสร็จสิ้นร่างระเบียบการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือซีโอซี ”

            เมื่อการเจรจาเสร็จสิ้นลง นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน และความมั่นคงด้านอาหารระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือด้านปิโตรเลี่ยมระหว่างสถานประกอบการทั้งสองประเทศ และออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับผลการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเนเธอแลนด์

            ค่ำวันเดียวกัน ท่านเหงวียนเติ้นหยุงได้จัดงานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแด่นายกรัฐมนตรีมาร์ก รูทท์และคณะผู้แทนระดับสูงเนเธอแลนด์
บ่ายวันที่ 16 มิถุนายน ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศได้ให้การต้อนรับนาย มาร์ค รุทท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ที่เข้าเยี่ยมคาราวะในโอกาสเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ส่วนในช่วงบ่าย ท่าน เหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาได้ให้การต้อนรับท่าน มาร์ครุทท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ในโอาสนี้ ท่าน เหงียนซิงหุ่งได้ส่งคำเชิญผ่านท่านนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ที่เชิญประธานสภาล่างและประธานวุฒิสภาเนเธอร์แลนด์เข้าร่วมการประชุมสมัชชารัฐสภาโลกครั้งที่ 132 ที่มีขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2015 ณ กรุงฮานอย
หนังสือพิมพ์ใหญ่ๆของเวียดนามฉบับวันที่๑๖เดือนนี้ได้ลงข่าวและบทความเกี่ยวกับการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาร์ก รูทท์โดยหนังสือพิมพ์เญินเเซินหรือประชาชนได้ลงบทบรรณาธิการที่พาดหัวว่า“ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับเนเธอแลนด์ให้พัฒนาอย่างลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”โดยย้ำว่า การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาร์ก รูทท์เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองสำคัญ มีส่วนร่วมส่งเสริมสัมพันธไมตรี ความร่วมมือ ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และน้ำทะเลหนุนให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ทั้งสองประเทศได้กำหนดความร่วมมือใน๕ด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การบริหารจัดการน้ำ การเกษตร เศรษฐกิจทางทะเล พลังงาน และการบริการโลจิสติก

ส่วนหนังสือพิมพ์กวนโดยเญินเซินหรือกองทัพประชาชนได้ลงบทบรรณาธิการพาดหัวว่า“หน้าใหม่ในความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับเนเธอแลนด์”โดยระบุว่า ในเวลาที่ผ่านมา สัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับเนเธอแลนด์ได้พัฒนาอย่างดีงามในทุกด้านและนับวันพัฒนาอย่างลึกซึ้งโดยทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการบริหารน้ำเมื่อเดือนตุลาคมปี๒๐๑๐ และเมื่อปี๒๐๑๓ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่๓.๖พันล้านเหรียญสหรัฐ ./.


 

คำติชม