ในการนี้ นาย เหงวียนมิงหวู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียูนับวันพัฒนาอย่างจริงจัง พร้อมทั้งยืนยันว่า ความสัมพันธ์นี้เป็นตัวอย่างของความร่วมมือที่สันติภาพและมีความประสงค์ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างกว้างลึกมากขึ้น อีกทั้งเสนอให้บรรดาประเทศอียูให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียูหรือ EVIPA จัดสรรเงินทุนเพื่อการพัฒนาให้แก่เวียดนามในช่วงปี 2024 -2027 ยกเลิกใบเหลืองของคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซีต่อการส่งออกสัตว์น้ำเวียดนาม อียูจะร่วมมือและช่วยเหลือเวียดนามในการปฏิบัติแผนการระดมทรัพยากรหรือ RMP ในกรอบความตกลงการเป็นพันธมิตรด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม หรือ JETP เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050
ส่วนเอกอัครราชทูต Julien Guerrier หัวหน้าคณะผู้แทนอียูประจำเวียดนามได้ทบทวนกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาของอียู พร้อมทั้งย้ำว่า ในตลอด 35 ปีที่ผ่านมา อียูได้เดินพร้อมกับเวียดนามในผลสำเร็จต่างๆ พร้อมทั้งยืนยันว่า อียูมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือเวียดนามในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศจนถึงปี 2045 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050.