ฝ่ายตะวันตกเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่าน

Chia sẻ
อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมนีได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอียูเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อ อิหร่านหลังจากที่การเจรจาระหว่างอิหร่านกับกลุ่มพี 5+1 ซึ่งประกอบไปด้วย 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเยอรมนีเกี่ยวกับ โครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานไม่สามารถบรรลุความคืบหน้า

ฝ่ายตะวันตกเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่าน - ảnh 1
หน่วยงานน้ำมันมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของอิหร่าน (Intenet)

ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรืออียูเมื่อวันที่ 7 กันยายน อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมนีได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอียูเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านหลังจากที่การเจรจาระหว่างอิหร่านกับกลุ่มพี 5+1 ซึ่งประกอบไปด้วย 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเยอรมนีเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานไม่สามารถบรรลุความคืบหน้าใดๆโดยนาย กิวโด เวสเตอร์เวล รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีได้ยืนยันว่า การที่เตหะรานไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาคมโลกก็หมายความว่า อียูต้องหารือถึงมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่านในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ในขณะเดียวกัน นาย โลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสได้แสดงความเห็นว่า การใช้มาตรการคว่ำบาตรอาจจะมุ่งเป้าไปยังภาคการเงิน การค้าและน้ำมันของอิหร่าน เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา อียูได้ตัดสินใจระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านเพื่อกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ ขณะนี้ สหรัฐกำลังเพิ่มแรงกดดันทางการทูตเพื่อโดดเดี่ยวเศรษฐกิจของอิหร่าน ในวันเดียวกัน แคนาดาได้ประกาศปิดสถานทูตประจำอิหร่านและระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ตลอดจนเนรเทศนักการทูตทั้งหมดของอิหร่านออกจากแคนาดาภายใน 5 วัน นอกจากนี้ แคนาดายังยกระดับคำเตือนพลเมืองของตนว่า ต้องหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังอิหร่าน ก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว อักฤษก็ได้ปิดสถานทูตประจำกรุง เตหะรานหลังจากที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมอิหร่านบุกยึดสถานทูต./.

คำติชม