นาย Sean D. Murphy ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันและสมาชิกคณะกรรมการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ (Photo: vietnamplus.vn)

(VOVworld) - คำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ได้สร้างพื้นฐานทางนิตินัยเพื่อให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคอภิปรายและร่วมมือกันในอนาคต นี่คือคำยืนยันของนาย Sean D. Murphy ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันและสมาชิกคณะกรรมการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ โดยในกรอบการประชุมเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ณ สำนักงานใหญ่ขององค์การการค้าโลก หรือ  WTO ในเมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นาย Sean D. Murphy ได้รายงานเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งปัญหาการพิพาททางทะเล โดยเฉพาะคดีฟิลิปปินส์ฟ้องร้องจีนกรณีการพิพาทในทะเลตะวันออก รวมทั้งวิเคราะห์ถึงคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการที่ปฏิเสธคำเรียกร้องอธิปไตยที่ไร้มูลความจริงของจีนและการตีความของศาลเกี่ยวกับระเบียบการที่กำหนดโครงสร้างทางกายภาพของเกาะหรือโขดหินต่างๆ
ส่วนในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเวียดนามประจำเมืองเจนีวาเกี่ยวกับผลกระทบจากคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นาย Sean D. Murphy ได้เผยว่า คำวินิจฉัยได้สร้างพื้นฐานทางนิตินัยที่เอื้อให้แก่ประเทศต่างๆในภูมิภาคในการเจรจาเกี่ยวกับโครงสร้างทางกายภาพต่างๆในทะเลตะวันออก ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการพัฒนากฎหมายระหว่างประเทศและเผยว่า สิ่งที่สำคัญคือ ศาลอนุญาโตตุลาการได้ใช้กฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับข้อกำหนดของอนุสัญญาฯและปัญหาต่างๆเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น คำวินิจฉัยดังกล่าวสามารถกลายเป็นบรรทัดฐานทางนิตินัยระหว่างประเทศ.