วันที่ 31 พฤษภาคม ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดการสัมมนา “62 ปีการประชุมบันดุง” ซึ่งเป็นโอกาสเพื่อผลักดันสัมพันธไมตรี ความสัมพันธ์ร่วมมือเอเชีย แอฟริกา ความร่วมมือระหว่างเอเชีย-ลาตินอเมริกา เพื่อมีส่วนร่วมผลักดันการสร้างสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาของภูมิภาคและโลก ในการนี้ นาย โตแองหยุง ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า หลักการบันดุงได้มีความผูกพันกับนโยบายการต่างประเทศเพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาของเวียดนาม เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการผลักดันสัมพันธไมตรีที่ยาวนาน ความสามัคคีและความร่วมมือกับประเทศเอเชียแอฟริกา ซึ่งความสัมพันธ์นี้ได้มีก้าวเดินพัฒนาที่เข้มแข็งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม บนพื้นฐานการให้ความเคารพกฎหมายสากลและมาตรฐานของภูมิภาคและโลก “เวียดนามกำลังขอสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 ผลักดันการเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ปฏิบัติระเบียบวาระการประชุม 2030 เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งของเวียดนามเข้ากับกระแสโลก พยายามสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนบน 3 เสาหลักด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมเพื่อมีส่วนร่วมนำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นภูมิภาคที่มีเสถียรภาพและร่วมมือ”
ในการสัมมนา บรรดาผู้แทนได้ยืนยันว่า ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดคือผลของขบวนการปลดปล่อยประชาชาติ เป็นเวทีเพื่อระดมประเทศต่างๆในประวัติศาสตร์แห่งการคงอยู่และพัฒนาของตน บนเจตนารมณ์ของการประชุมบันดุง ประเทศต่างๆได้ร่วมกันทำนุบำรุงและสร้างสรรค์ระเบียบโลกบนหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล สัมพันธไมตรีได้รับการเสริมสร้างและพัฒนา.