นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งให้การต้อนรับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศและปัญหายุโรปสโลวีเนีย Tanja Fajon (Photo: VGP)

ในการให้การต้อนรับนาง Tanja Fajon บ่ายวันที่ 23 พฤษภาคม ณ สำนักรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ได้เสนอให้สโลวีเนียอำนวยความสะดวกให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดแข็งของเวียดนามในการเจาะตลาดสโลวีเนีย เช่น ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป สินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำ พร้อมทั้งเสนอให้สโลวีเนียให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างอียูกับเวียดนามโดยเร็ว ส่งเสริมให้คณะกรรมาธิการยุโรปยกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำเวียดนาม ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือในฟอรั่มพหุภาคีและภูมิภาค ร่วมกันรับมือกับความท้าทายระดับโลกเช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ วิกฤตด้านพลังงานและอาหาร สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความสำคัญของการค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศและปัญหายุโรปสโลวีเนีย Tanja Fajonและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม บุ่ยแทงเซิน (Photo: กระทรวงการต่างประเทศ)

ก่อนหน้านั้น ในการเจรจากับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศและปัญหายุโรปสโลวีเนีย Tanja Fajon รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านกับสาธารณรัฐสโลวีเนีย  พร้อมทั้งเสนอให้สโลวีเนียสนับสนุนชมรมชาวเวียดนามในการส่งเสริมบทบาทการเป็นสะพานเชื่อม มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ส่วนนาง Tanja Fajon ได้ย้ำว่า สโลวีเนียมีความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์กับเวียดนาม ซึ่งเป็นหุ้นส่วนชั้นนำของสโลวีเนียในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้  ขยายความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พลังงานหมุนเวียน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ท่าเรือและโลจิสติกส์  พร้อมทั้งยืนยันว่า สโลวีเนียจะให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างอียูกับเวียดนามโดยเร็ว ส่งเสริมให้คณะกรรมาธิการยุโรปยกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคี มาตรการผลักดันความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีศักยภาพสำหรับด้านการเมืองและการทูต  ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ โดยเฉพาะระดับสูง สนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคีและองค์การระหว่างประเทศ  สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองฝ่ายได้กล่าวถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 

หลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกับกระทรวงการต่างประเทศและปัญหายุโรปสโลวีเนีย.