ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะปฏิบัติข้อตกลง CPTPP อย่างมีประสิทธิภาพ พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็นกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ได้เสนอให้แคนาดาสนับสนุนการนำเข้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนาม พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า สถานประกอบการแคนาดาจะผลักดันการลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะเศรษฐกิจแห่งสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
สำหรับด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการเจรจาเกี่ยวกับการรับรองวัคซีนพาสปอร์ตและกรีนการ์ดระหว่างกัน นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ได้เสนอให้แคนาดาเอื้อให้แก่เวียดนามในการปรับปรุงกลไก เทคโนโลยี การเงินแห่งสีเขียว การฝึกอบรมแหล่งบุคลากรในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรม พร้อมทั้งเสนอให้แคนาคาให้การสนับสนุนชมรมชาวเวียดนามที่อาศัย ทำงานและศึกษาในแคนาคา ส่วนนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูดอร์ ได้ชื่นชมส่วนร่วมของชมรมชาวเวียดนามในประเทศแคนาดา พร้อมทั้งยืนยันว่า พร้อมฝึกอบรมนักศึกษาเวียดนามและผลักดันการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน
สำหรับความร่วมมือพหุภาคี ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพบนพื้นฐานของกฎหมายสากล ส่งเสริมผลประโยชน์ที่ชอบธรรมบนพื้นฐานของกฎหมายสากลเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก ประธานาธิบดีอาร์เมเนีย และแซมเบีย ผู้ว่าการเมืองลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐ.