ในการนี้ บรรดาผู้นำทั้งสองประเทศได้แสดงความพอใจต่อการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศในตลอด๔๐ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้ง เห็นว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีเมียนมาร์จะช่วยเปิดระยะใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ อีกทั้ง แสดงความประสงค์ว่า  ทั้งสองประเทศจะส่งเสริมกลไกความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ  ผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การพบปะระดับประชาชนและความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆเพื่อร่วมกันพัฒนา  ประสานงานอย่างใกล้ชิดในอาเซียน ฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก ผู้นำเวียดนามได้ย้ำว่า เวียดนามมีจุดแข็งเกี่ยวกับการส่งออก โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์การเกษตรและมีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือกับเมียนมาร์ในด้านนี้ ส่วนประธานาธิบดีเมียนมาร์ได้แสดงความยินดีที่มีโอกาสมาเยือนเวียดนามเป็นครั้งแรกและเข้าร่วมการประชุม ACMES๘  CLMV๗ และWEF-Mekong พร้อมทั้ง กล่าวแสดงความยินดีกับเวียดนามที่ได้ประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติ๓๐ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ  โดยเฉพาะ การพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมและมีสถานะที่นับวันได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นในภูมิภาคและโลก  อีกทั้ง เผยว่า รัฐบาลเมียนมาร์แสดงความยินดีต่อการที่เวียดนามปฏิบัติโครงการลงทุนในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ  พริกไทย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ในเมียนมาร์  ตลอดจนการผลักดันความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการบิน