ในพิธีประกาศที่นครโฮจิมินห์ เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้ยืนยันว่า การดำเนินงานรูปแบบการปกครองท้องถิ่นสองระดับในนครโฮจิมินห์ ซึ่งประกอบด้วยนครโฮจิมินห์ จังหวัดบิ่งเยืองและจังหวัดบ่าเหรีย-หวุงเต่า เป็นการปรับเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์ ความต้องการเชิงภาวะวิสัยของประชาชนและประเทศในกระบวนการสร้างสรรค์พลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาของประเทศและภูมิภาค

"บรรยากาศการพัฒนาใหม่นี้ได้รับการสร้างสรรค์ตามวิสัยทัศน์ในระยะยาว มุ่งสู่การพัฒนาอย่างพร้องเพรียง ยั่งยืนและเป็นวิทยาศาสตร์ นี่เป็นสัญลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาของแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบทางการปกครองท้องถิ่นเพื่อรับใช้ประชาชนให้ดีขึ้น ใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่เป็นก้าวเดินเชิงก้าวกระโดดในการปรับโครงสร้างสำนักงานบริหารราชการในตัวเมือง อำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาอย่างรวดเร็ว เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพของนครโฮจิมินห์”

เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ยังส่งสารถึงประชาชนและทหารทั่วประเทศ โดยเรียกร้องให้ประชาชนทุกชั้นชนทั้งภายในและต่างประเทศและกองกำลังติดอาวุธร่วมแรงร่วมใจเพื่อพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว เข้มแข็งและยั่งยืนมากขึ้น  

ส่วนในพิธีประกาศที่กรุงฮานอย ประธานประเทศ เลืองเกื่อง ได้กำชับให้ทางการกรุงฮานอยเน้นชี้นำให้พรรคสาขา ทางการทุกระดับ โดยเฉพาะพรรคสาขาและทางการตำบลและแขวง 126 แห่งดำเนินไปอย่างราบรื่น พร้อมเพรียง มีประสิทธิภาพ ไม่ปล่อยให้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมต่างๆของสังคม โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องถึงประชาชนและสถานประกอบการ

ในพิธีประกาศที่นครไฮฟอง นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เห็นว่า นี่เป็นกิจกรรมที่สำคัญ เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการพัฒนาใหม่ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทาย เพื่อพัฒนานครไฮฟองหลังการควบรวมเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การบริการการเมือง วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่สำคัญ ค้ำประกันความมั่นคงด้านกลาโหม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กำชับว่า 

“ต้องสร้างสรรค์รูปแบบสังคมนิยม พัฒนาอย่างรวดเร็ว ยั่งยืน ทันสมัย  มีอารยธรรม สร้างสรรค์เสาหลักของเศรษฐกิจหลายแขนงอาชีพ ทันสมัย มีทักษะความสามารถในการแข่งขันในโลก เป็นตัวอย่างของอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง นวัตกรรม การบริการโลจิสติกส์ระดับโลก สร้างสรรค์อุตสาหกรรมวัฒนธรรม การบันเทิง โครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมเพรียง ทันสมัยและอัจฉริยะ สร้างพลังขับเคลื่อนในการเชื่อมโยงระหว่างเขต  ระหว่างภูมิภาคและโลก ยืนยันสถานะเป็นประตูด้านการเดินเรือและการบินของประเทศ”

 ส่วนที่นครเกิ่นเทอ ประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน ได้ชื่นชมการที่ท้องถิ่น 3 แห่ง ได้แก่ เกิ่นเทอ เหิ่วยางและซอกจังได้ประสานงานเพื่อเร่งปฏิบัติตามการแนะนำของส่วนกลาง ค้ำประกันให้การให้บริการสาธารณะดำเนินไปอย่างราบรื่น รับใช้ประชาชนและสถานประกอบการอย่างเต็มที่.