เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศพร้อมเบิกจ่ายวงเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 10 ล้านยูโรให้แก่ฉนวนกาซาตามคำเรียกร้องของสหประชาชาติ ซึ่งวงเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็น เช่น น้ำและการดูแลด้านสาธารณสุข และยืนยันอีกครั้งว่า อิสราเอลมีสิทธิปกป้องตนเองหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาส แต่ปฏิบัติการตอบโต้ของอิสราเอลต้องค้ำประกันการปฏิบัติตามหลักสากลคือประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่ใช่เป็นเป้าหมายของการใช้ความรุนแรง
ในวันเดียวกัน นาย Jose Manuel Albares รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสเปนประกาศว่า สเปนจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม มูลค่า 1.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ฉนวนกาซา
ในบทความที่โพสต์บนเฟสบุ๊ค นาย Anwar Ibrahim นายกรัฐมนตรีมาเลเซียย้ำว่า ต้องให้ความสนใจต่อความปลอดภัยของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะในฉนวนกาซา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย Anwar Ibrahimประกาศว่า มาเลเซียจะให้ความช่วยเหลือเงินมูลค่า 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ชาวปาเลสไตน์
ส่วนนาง ราวีนา ชัมดาซานี โฆษกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติให้ข้อสังเกตว่า การที่อิสราเอลปิดล้อมฉนวนกาซาและสั่งอพยพประชาชนในภาคเหนือของประเทศถือเป็นการกระทำที่บังคับให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์อพยพและละเมิดกฎหมายสากล ผู้อพยพกำลังติดค้างอยู่ในภาคใต้ของฉนวนกาซา ขาดแคลนอาหาร ที่พักอาศัย น้ำสะอาด ยาและสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ.