 ภาพการประชุม (Photo VGP) |
ในการกล่าวปราศรัยในพิธี ท่านเหงียนฟู้จ่องได้ชื่นชมการเข้าร่วมของทั้งระบบการเมือง ประชาชนและทหารทั่วประเทศต่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ควบคู่กับการรักษาอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ในระดับกว่าร้อยละ 2 ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา วัฒนธรรมและสังคมมีก้าวพัฒนา ค้ำประกันสวัสดิการสังคมและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้เป็นอย่างดี งานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น การประหยัดมีประสิทธิภาพ งานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ยังคงประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ สามารถรักษาความมั่นคงกลาโหม อธิปไตย บรรยากาศที่สันติภาพ เสถียรภาพและอำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาประเทศ
สำหรับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2021 ท่านเหงียนฟู้จ่องกำชับว่า จำเป็นต้องปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเพื่อให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจฟื้นฟูโดยเร็วและยั่งยืน โดยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการและประชาชนพัฒนาการผลิตและประกอบธุรกิจในตลาดภายในประเทศ ผลักดันการทำธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรม พยายามแก้ไขปัญหาหนี้เสียและความอ่อนแอของธนาคารพาณิชย์ เพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของระบบองค์กรสินเชื่อ เพิ่มทักษะความสามารถในการบริหารและการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการภาครัฐ เป็นต้น
 ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ กล่าวปราศรัยปิดการประชุม (Photo VGP) |
สำหรับการปรับปรุงร่างเอกสารที่จะยื่นเสนอต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากผู้แทนสภาแห่งชาติและแนวร่วมปิตุภูมิหลังการประชุมครั้งนี้ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ เหงียนฟู้จ่องกำชับว่า “ต้องถือการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม การสร้างสรรค์พรรคเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุด การพัฒนาวัฒนธรรมเป็นพื้นฐานทางจิตใจของสังคม การรักษาความมั่นคงกลาโหมเป็นหน้าที่หลักและต้องปฏิบัติเป็นประจำ ต้องยืนยันว่า จำเป็นต้อง “ปลูกเร้าจิตใจแห่งความรักชาติ การพึ่งพาตัวเองของประชาชาติและความปรารถนาอันแรงกล้าเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและผาสุก พัฒนาพลังที่เข้มแข็งของทั้งระบบการเมือง วัฒนธรรมและคนเวียดนาม ดึงดูดและเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีทักษะความสามารถ ผลักดันการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรม โดยเฉพาะผลสำเร็จของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาประเทศ ผสมผสานระหว่างพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติกับพลังที่เข้มแข็งแห่งยุคสมัย พัฒนาพลังภายในประเทศและใช้โอกาสจากพลังภายนอก โดยพลังของมนุษย์ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด”
สำหรับงานด้านบุคลากร ท่านเหงียนฟู้จ่องได้ประเมินว่า การประชุมครั้งนี้ได้มีการหารืออย่างมีประชาธิปไตย มีภาวะวิสัย โปร่งใสและรอบด้านเพื่อเสนอรายชื่อผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมคณะผู้บริหารส่วนกลางพรรคและคณะกรรมการตรวจสอบส่วนกลางสมัยที่ 13 เป็นต้น
ท่านเหงียนฟู้จ่องยังยืนยันเกี่ยวกับความสำเร็จของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 13และเสนอให้ปฏิบัติมติของการประชุมครั้งนี้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19และมีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้.