นายกฯเวียดนามได้ย้ำถึงโอกาสการพัฒนาและความท้าทายใหม่ที่อาเซียนจะได้รับจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4หรือการปฏิวัติเทคโนโลยีที่ทันสมัย อินเตอร์เนต หุ่นยนตร์และอัตโนมัติ ในการกล่าวถึงศักยภาพของเวียดนาม นายกฯเหงวียนซวนฟุกได้ชี้ชัดว่า “เพื่อธำรงการพัฒนาที่คล่องตัวและขีดความสามารถในการแข่งขัน อาเซียนไม่สามารถพึ่งพาแต่ทรัพยากรณ์และแรงงารุ่นใหม่ที่ไร้ฝีมือหากต้องสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ที่เข้มแข็งมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งนอกจากต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารเศรษฐกิจ อาเซียนต้องเตรียมฝึกอบรมแหล่งบุคลากรที่มีฝีมือเพื่อสามารถเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ดังนั้นผมขอเสนอให้ฟอรั่มพิจารณาจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานเพื่อวิจัยและมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายด้านการศึกษาฝึกอบรม การสอนอาชีพและการกระตุ้นจิตใจแห่งธุรกิจสตาร์ตอัพ สร้างตลาดรองงรับและส่งเสริมสถานประกอบการลงทุนพัฒนาธุรกิจสตาร์ตอัพของอาเซียน”
นายกฯเหงวียนซวนฟุกได้ย้ำถึงความพยายามของเวียดนามในการมุ่งบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่ยั่งยืนบนพื้นฐานการยกระดับคุณภาพการขยายตัวและการใช้โอกาสจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4ให้เต็มที่เพื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและมู่งสู่การเข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่าโลกในระดับที่สูงกว่า
ในกรอบของการประชุม นายกฯเวียดนามได้ให้การต้อนรับผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร WEF ประธานธนาคารลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย - AIIB และผู้อำนวยการเครือบริษัทCISCO สหรัฐ.