นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเป็นประธานการประชุมรัฐบาลประจำเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018

Chia sẻ
(VOVWORLD) -เช้าวันที่ 1 มีนาคม ณ สำนักงานของรัฐบาล ได้มีการจัดการประชุมประจำเดือนกุมภาพันธ์ของรัฐบาลภายใต้อำนวยการของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุก
นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเป็นประธานการประชุมรัฐบาลประจำเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเป็นประธานการประชุมรัฐบาลประจำเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 (Photo VNplus)

ในการประเมินเกี่ยวกับเศรษฐกิจ – สังคมในเดือนกุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีได้เผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ การเงิน อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและดอกเบี้ยมีเสถียรภาพต่อไป ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.73 ความได้เปรียบดุลการค้าใน 2 เดือนแรกของปี 2018 อยู่ที่กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเบิกจ่ายเงินเอฟดีไออยู่ที่กว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการจัดตั้งสถานประกอบการใหม่เกือบ 1 หมื่น 9 พันแห่ง นายกรัฐมนตรียังกำชับว่า ในปีนี้ แรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อจะรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการควบคุมภาวะเงินเฟ้อและควบคุมเศรษฐกิจมหภาค โดยเสนอมาตรการแก้ไขอุปสรรคต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนา โดยเฉพาะแสวงหาแหล่งพลังทั้งภายในและต่างประเทศเพื่อดึงดูดเงินทุนเข้าเวียดนามมากขึ้น

ในเช้าวันเดียวกัน สมาชิกรัฐบาลได้แสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายการปลูกต้นไม้และร่างกฎหมายปศุสัตว์ เป็นต้น

ในบ่ายวันเดียวกัน ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ-สังคมในเดือนกุมภาพันธ์ปี2018  ในการกล่าวปราศรัยสรุปผลการประชุม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้กำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นเฝ้าติดตามสถานการณ์โลกเพื่อวางนโยบายอย่างทันการณ์ ปฏิบัติตามแนวทาง “ระเบียบวินัย บริสุทธิ์ซื่อสัตย์ ปฏิบัติ มีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ”

สำหรับหน้าที่หลักในเดือนมีนาคมและในเวลาที่จะถึง นายกรัฐมนตรีเวียดนามกำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆเน้นควบคุมภาวะเงินเฟ้อ รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งชาติเวียดนามประสานงานกับกระทรวงการคลังในการบริหารนโยบายการเงินเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ  ผลักดันการเบิกจ่ายเงิน จากสถานการณ์ที่ประเทศต่างๆปรับปรุงนโยบาย เช่น การปรับลดภาษีเงินได้สถานประกอบการและการเพิ่มดอกเบี้ย ท่านนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆมีนโยบายที่เหมาะสมเพื่อปรับปรุงนโยบายต่างๆและระดมแหล่งพลังจากภายนอกเพื่อพัฒนาประเทศ.

คำติชม