|
เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนามและนายกรัฐมนตรีเวียดนาม
(Photo: vietnamplus.vn) |
(VOVWorld)-ในการให้การต้อนรับนาย เท็ด โอซีอุส เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนามในโอกาสมารับหน้าที่ตามวาระในเวียดนาม บ่ายวันที่๗มกราคม ท่าน เหงวียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะร่วมกับสหรัฐผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้นับวันยิ่งเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ส่งเสริมความเข้าใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัน ท่าน เหงวียนเติ๊นหยุงได้เสนอให้ทั้งสองประเทศผลักดันความร่วมมือใน๙ด้านอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ ในปี๒๐๑๕- ครบรอบ๒๐ปีการปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ โดยเน้นผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงและส่งเสริมความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพคือ เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน บนเจตนรมณ์นี้ ท่าน เหงวียนเติ๊นหยุงได้เผยว่า เวียดนามจะพยายามอย่างสุดความสามารถ พร้อมทั้ง เสนอให้สหรัฐมีความคล่องตัวในการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีเพื่อมุ่งสู่การลงนามข้อตกลงสำคัญนี้ ซึ่งจะนำผลประโยชน์มาให้แก่ทั้งสองประเทศ
ส่วนนาย เท็ด โอซีอุสได้ย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศ โดยยืนยันว่า ในวาระที่ดำรงตำแหน่งของตน ตัวเขาจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้ง ส่งสาสน์ของประธานาธิบดีสหรัฐ บารัก โอบามาที่ประเมินผลการเจรจาอันดีงามกับท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนอกรอบการประชุมผู้นำเอเชียตะวันออกที่มีขึ้น ณ ประเทศพม่า เมื่อปีที่แล้วและยืนยันอีกครั้งถึงการสนับสนุนของสหรัฐต่อความเจริญรุ่งเรืองและเอกราชของเวียดนาม สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน นาย เท็ด โอซีอุสได้เผยว่า สหรัฐมีความประสงค์ที่จะกลายเป็นนักลงทุนและหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ซึ่งจากการที่มีโอกาสทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเวียดนามในระยะยาว นาย เท็ด โอซีอุสได้ยืนยันถึงความคืบหน้าของเวียดนามในการค้ำประกันสิทธิพลเมือง สิทธิมนุษยชนและให้การสนับสนุนต่อกระบวนการสร้างสรรค์รัฐที่ปกครองด้วยอำนาจกฎหมายของเวียดนาม จุดยืนของเวียดนามในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในภูมิภาค พร้อมทั้ง เผยว่า ประธานาธิบดี บารักโอบามากำลังพยายามเพื่อยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้แก่เวียดนามอย่างสมบูรณ์./.