ในการกล่าวต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งห์ได้ย้ำว่า นับตั้งแต่การประชุมครั้งที่ 13 ของคณะกรรมการฯ สถานการณ์โลกก็มีการเปลี่ยนแปลงมากมายซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเวียดนามและแม้จะมีความยากลำบากแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทั่วประเทศยังอยู่ในกรอบการควบคุม โดยจำนวนผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างรวดเร็ว สถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างดี ความมั่นคงทางการเมือง ความสงบเรียบร้อยของสังคมได้รับการค้ำประกันอย่างมั่นคง ความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศและการผสมผสานมีประสิทธิภาพ ประเทศได้เปิดการท่องเที่ยวอีกครั้งและโรงเรียนต่างๆต้อนรับนักเรียนไปโรงเรียนอีกครั้ง แต่อ่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดยังเป็นไปอย่างซับซ้อน โดยเฉพาะมีการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ใหม่ทำให้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดจะประสบอุปสรรคมากขึ้น ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงย้ำว่าทุกหน่วยงานต้องไม่ประมาทในงานการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด.
นายกรัฐมนตรียังกำชับให้เร่งผลักดันการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 12 ถึง 18 ปีเพราะวัคซีนเป็นมาตรการยุทธศาสตร์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด- 19 ดังนั้นการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 12 -18 ปีจะต้องแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ ตลอดจนเร่งจัดหาและนำเข้าวัคซีนสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 5 ถึง 12 ปี เพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนให้เด็กให้เสร็จสิ้นในไตรมาสที่สองของปีนี้.