ปฏิบัติกระบวนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างเคร่งครัด |
นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานทุกระดับ ทางการท้องถิ่นและประชาชนปฏิบัติตามจิดใจ “ต่อสู้กับโรคเหมือนกับศัตรู” โดยยอมสะละผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจเพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของประชาชน เพิ่มความเข้มงวดและปฏิบัติตามระเบียบวินัย ไม่ประมาทและเพิ่มมาตรการเพื่อค้นพบผู้ติดเชื้อโดยเร็ว แยกตัวอย่างทันการณ์เพื่อควบคุมให้ได้
ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดใช้มาตรการต่างๆเพื่อห้ามการชุมนุมตั้งแต่เวลา 0.00 น. ของวันที่ 28 มีนาคมถึงวันที่ 15 เมษายน ซึ่งประกอบด้วย ยกเลิกการประชุมและกิจกรรมที่มีผู้ชุมนุมตั้งแต่ 20 คนขึ้นไปในแต่ละห้อง ห้ามชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปในบริเวณนอกสำนักงาน โรงเรียนและโรงพยาบาล แต่ละคนต้องห่างกันอย่างน้อย 2 เมตรในสถานที่สาธารณะ ระงับการปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาและกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจาก 20 คนขึ้นไป งดกิจกรรมวัฒนธรรม การกีฬาและการบันเทิงในสถานที่สาธารณะ ระงับการประกอบธุรกิจและให้บริการในท้องถิ่น ยกเว้นการประกอบธุรกิจด้านสินค้าและการให้บริการที่จำเป็น
จำกัดการเดินผ่านของประชาชน โดยเฉพาะจากจังหวัดและนครที่กำลังมีการแพร่ระบาดของโรถไปยังท้องถิ่นอื่นๆ ระงับหรือพิจารณาการจราจรสาธารณะเพื่อลดการเดินผ่านและการชุมนุม ยกเว้นยานพาหณะขนส่งสินค้า
คณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้กำชับให้กระทรวง หน่วยงานและทางการท้องถิ่นต้องเตรียมบุคลากร อุปกรณ์การแพทย์ ยารักษาโรคอย่างเพียงพอ รวมทั้งมีแผนการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดในพื้นที่กว้างขวาง ทำแผนการรับมือสภาวการณ์ฉุกเฉินเพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรีก่อนวันที่ 28 มีนาคม หน่วยงานทุกระดับต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการทำงานเพื่อปรับตัวเข้ากับสภาวการณ์การป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19
นายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก มีความเชื่อมั่นและสนับสนุนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ต่อไป
นายกรัฐมนตรีกำชับว่า ควบคุ่มกับการป้องกันโรคระบาด หน่วยงานทุกระดับต้องปฏิบัติมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิต การประกอบธุรกิจและค้ำประกันสวัสดิการสังคม.