นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐครั้งที่ 7 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกครั้งที่ 14

Chia sẻ
(VOVWORLD) - เมื่อเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน ณ กรุงเทพฯ ประเทสไทย ในกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐครั้งที่ 7 ในนามประธานาธิบดีสหรัฐ นาย Robert C. O'Brien  ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐครั้งที่ 7 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกครั้งที่ 14 - ảnh 1นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก กับหัวหน้าคณะผู้แทนของประเทศต่างๆที่เข้าร่วมการประชุม (vietnamplus) 

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย เหงียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า สหรัฐเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของอาเซียน อีกทั้งชื่นชมคำมั่นของสหรัฐต่ออาเซียน มีความประสงค์ว่า อาเซียนจะแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ สนับสนุนบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการกำหนดโครงสร้างภูมิภาคตามกฎหมาย

นายกรัฐมนตรีเห็นพ้องกันว่า การพัฒนาที่เจริญรุ่งเรืองของสองฝ่ายมีลักษณะสนับสนุนกัน ขณะนี้ อาเซียนคือตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ส่วนสหรัฐเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 3 และนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน อีกทั้งชื่นชมและส่งเสริมนักลงทุนสหรัฐเข้าร่วมโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในอาเซียน

นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความสำคัญของทะเลตะวันออก ความรับผิดชอบของประเทศต่างๆต่อเส้นทางทะเลที่สำคัญนี้ และยืนยันอีกครั้งถึงทัศนะของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออกที่บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ยืนยันอีกครั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า ทุกฝ่ายต่างมีความรับผิดชอบในการมีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสริมสร้างเสถียรภาพ ผลักดันการสนทนา ความร่วมมือ ร่วมกันสร้างสรรค์ทะเลตะวันออกที่สันติภาพ ร่วมมือและพัฒนาที่เจริญรุ่งเรือง ในฐานะประธานอาเซียนปี 2020 เวียดนามให้คำมั่นที่จะผลักดันความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐให้พัฒนาต่อไปเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาค

บ่ายวันเดียวกัน ณ กรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกครั้งที่ 14 ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย เหงียนซวนฟุก ย้ำว่า สถานการณ์ในทะเลตะวันออกยังไม่ยั่งยืนและยังมีหลายปัญหาที่สร้างความวิตกกังวล ขัดกับกฎหมายสากล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือและการบิน นายกรัฐมนตรีเสนอให้ประเทศต่างๆผลักดันการสนทนา สร้างความไว้วางใจ จัดทำหลักปฏิบัติต่อกัน ปฏิบัติดีโอซีอย่างเคร่งครัดและจัดทำซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับกฎหมายสากลเพื่อทะเลตะวันออกที่สันติภาพ ร่วมมือและพัฒนาที่เจริญรุ่งเรือง.

คำติชม