นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับฝรั่งเศส เสนอให้ฝรั่งเศสอำนวยความสะดวกให้แก่การนำเข้าสินค้าเวียดนาม โดยเฉพาะสินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำ พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ใช้โอกาสต่างๆจากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปเพื่อผลักดันการแลกเปลี่ยนสินค้าทวิภาคี อีกทั้งเสนอให้ฝรั่งเศสให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียูเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ความสัมพันธ์ด้านการลงทุนที่เท่าเทียมกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ส่งเสริมให้คณะกรรมาธิการยุโรปยกเลิกใบเหลือง IUU ต่อสัตว์น้ำเวียดนาม ตอบสนองผลประโยชน์ของผู้บริโภคฝรั่งเศสและอียู ค้ำประกันการประกอบอาชีพของชาวประมงนับแสนคนของเวียดนาม
ส่วนรัฐมนตรี Olivier Becht ได้ยืนยันว่า จะผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามในด้านที่ฝรั่งเศสมีจุดแข็ง เช่น การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมในตัวเมือง สาธารณสุข พลังงาน การบิน รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งย้ำว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะอำนวยความสะดวกให้แก่ชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยและทำงานในฝรั่งเศส
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออก โดยย้ำถึงความสำคัญในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมทั้ง อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982.