ในการกล่าวปราศรัยในการสนทนา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า ทุกฝ่ายควรประเมินสถานการณ์และผลงานที่ได้บรรลุอย่างรอบด้านและมีภาวะวิสัย เสนอแนวทางและหน้าที่ในเวลาข้างหน้าเพื่อปฏิบัติเป้าหมาย “การเกษตรที่ทันสมัย เกษตรกรที่มีอารยธรรม การเกษตรเชิงนิเวศ” พร้อมทั้งเสนอให้การสนทนาเน้นถึงอุปสรรคที่ต้องแก้ไข หลังการสนทนา โฉมหน้าของเขตชนบทต้องมีการเปลี่ยนแปลง ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรควรเป็นเรื่องหลัก เขตชนบทเป็นพื้นฐานและการเกษตรเป็นพลังขับเคลื่อน

ในการตอบคำถามของนาง เจิ่นถิแลง ผู้อำนวยการสหกรณ์ผลิตและประกอบธุรกิจสินค้าการเกษตรกวางแลง จังหวัดท้ายบิ่ง เกี่ยวกับมาตรการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสหกรณ์ในโครงการของเกษตรกรที่เข้าร่วมการพัฒนาเศรษฐกิจหมู่คณะ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า “ท้องถิ่นต่างๆ ต้องเป็นฝ่ายจัดทำกลไก ส่วนเกษตรกรต้องตระหนักในการเชื่อมโยงกันบนเจตนารมณ์ที่จะแบ่งปันผลประโยชน์และความเสี่ยง ร่วมมือกันอย่างสมัครใจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” สำหรับมาตรการเพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกขึ้นในอนาคต นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลได้เสนอให้คณะกรรมการประชาชนจังหวัดและนครส่วนกลางทำการแนะนำและแก้ไขอุปสรรคให้แก่เกษตรกร ในการกล่าวสรูปผลการสนทนากับเกษตรกร นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า การสนทนาครั้งที่ 5 นี่มีความหมายที่สำคัญเพื่อแปรปัญหาใหญ่ให้เป็นเรื่องจริง มีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ในด้านการเกษตร ชนบทและเกษตรกร พร้อมทั้งยืนยันถึงบทบาทของการเกษตร ชนบทและเกษตรกรในกระบวนการพัฒนประเทศ ชื่นชมผลสำเร็ของการเกษตร เกษตรกรและชนบทในปี 2023 ซึ่งได้ช่วยให้การขยายตัวของจีดีพีด้านการเกษตรบรรลุร้อยละ 3.83 สูงที่สุดในหลายปีมานี้.