ภาพของการพบปะ

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติข้อตกลงระดับสูงที่ได้บรรลุ พัฒนาความร่วมมือให้เข้าสู่ส่วนลึกและให้สมกับกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ส่วนประธานวุฒิสภาออสเตรเลีย ได้ยืนยันว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญและรัฐบาลและรัฐสภาออสเตรเลียให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อนโยบายการต่างประเทศของออสเตรเลียในภูมิภาค สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ประธานวุฒิสภาออสเตรเลียได้ยืนยันถึงจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของออสเตรเลีย สนับสนุนจุดยืนและหลักการของเวียดนามและอาเซียนในการค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของการให้ความเคารพกฎหมายสากลโดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982

ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมการสนทนา การแลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งเสริมความไว้วางใจและความเข้าใจกัน กระชับความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในระดับสูงกว่า  รวมทั้ง การผลักดันการลงทุนและการค้า เพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและ เพิ่มขึ้น 2 เท่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งสองประเทศส่งเสริมความร่วมมือในด้านใหม่และมีศักยภาพ เช่น เศรษฐิจแห่งสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจหมุนเวียน ความร่วมมือด้านการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ เป็นต้น ส่วนประธานวุฒิสภาออสเตรเลียได้ยืนยันว่า ออสเตรเลียให้ความสนใจและอำนวยความสะดวกให้แก่ชมรมชาวเวียดนามในประเทศออสเตรเลีย  ทั้งสองฝ่ายให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามและออสเตรเลียควรผลักดันการทาบทามความคิดเห็น การแลกเปลี่ยนข้อมูล ประเมินและประสานงานด้านนโยบาย ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก มีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและอินโดแปซิฟิกที่สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและความเจริญรุ่งเรือง.