|
ทะเลตะวันออก(Photo:VOV ) |
(VOVworld) – ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีการจัดการสัมมนานานาชาติในหัวข้อ“ทะเลตะวันออกจะกลายเป็นวิกฤติแห่งใหม่หรือไม่?” ที่สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและยุทธศาสตร์หรือIRISและกองทุนGabriel Periจัดขึ้นโดยมี๓หัวข้อย่อยคือ“กฏหมายสากล” “ความท้าทายทางการเมือง ยุทธศาสร์และเศรษฐกิจในทะเลตะวันออก”และ“ทางตันด้านการทหารหรือมาตรการทางการเมือง” โดยบรรดานักวิชาการระหว่างประเทศได้คัดค้านคำเรียกร้องอธิปไตยของจีนในทะเลตะวันออกอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ คารมที่ไร้มูลความจริงเกี่ยวกับเส้นประ๙เส้นเพราะจากการวิเคราะห์แผนที่เส้นประ๙เส้นของจีนอย่างละเอียดแสดงให้เห็นว่า แผนที่นี้ไม่สอดคล้องกับกฏหมายและประเพณีปฏิบัติสากล ศาสตราจารย์Monique Chemillier จากมหาวิทยาลัยปารีส๗ ได้กล่าวว่า “กฏหมายสากลปัจจุบันระบุว่า ประเทศที่ต้องประกาศอธิปไตยเหนือเกาะแห่งหนึ่งแห่งใดจะต้องเป็นผู้ค้นพบเกาะดังกล่าว มีประชาชนของตนอาศัยอย่างถาวรและยาวนาน รวมทั้งมีระบบการปกครองที่นั่น หลักฐานข้อมูลของจีนอาศัยเพียงเอกสารประวัติศาสตร์และวรรณคดีที่ไม่มีพื้นฐานทางนิตินัยซึ่งกฏหมายสากลต้องการหลักฐานข้อมูลที่เป็นจริง ในขณะเดียวกันนั้น เวียดนามกลับมีหลักฐานข้อมูลที่ยืนยันว่า ในสมัยAn Nam ในระหว่างศตวรรษที่๑๘ถึงกลางสศวรรษที่๑๙ ทางการในสมัยนั้นได้จัดตั้งหน่วยงานบริหารทางการปกครองเหนือหมู่เกาะHoàng Saหรือพาราเซล รวมทั้ง มีการบริหาร การใช้ทรัพยากร การจับปลา และเก็บทรัพย์สินจากเรือที่อับปางและสิ่งที่สำคัญคือ การบริหารนั้นไม่ถูกประเทศต่างๆในภูมิภาคประท้วง ต่อจากนั้น ฝรั่งเศสรับอำนาจการบริหารจากทางการ An Nam และหลังจากที่สงครามยุติลง ทางการภาคใต้เวียดนามได้รับช่วงบริหารอย่างชอบด้วยกฏหมาย สำหรับหมู่เกาะTrương Saหรือเสปตรลี่ มีเอกสารของฝรั่งเศสระบุว่า ในช่วงปี๑๙๓๐ ทางการจีนยังคงมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหมู่เกาะแห่งนี้และไม่ได้ระบุในแผนที่แห่งชาติ” บรรดานักวิชาการได้วิเคราะห์ว่า คำจำกัดความที่จีนเสนอ เช่น“ เขตน่านน้ำติดกัน”หรือ“เขตน่านน้ำทางประวัติศาสตร์”ไม่อยู่ในข้อตกลงระหว่างประเทศ รวมทั้ง แถลงการณ์อ่าวMontego๑๙๘๒ ที่จีนได้ให้ภาคียานุวัติ ดังนั้นคำจำกัดความของจีนจึงไม่มีลักษณะทางนิตินัย บรรดานักวิชาการเห็นว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและประเทศใหญ่ๆที่ไม่ใช่คู่พิพาท เช่น สหรัฐและฝรั่งเศส ควรมีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขความตึงเครียดในทะเลตะวันออกซึ่งเป็นปัญหาระดับโลกมิใช่ปัญหาระดับภูมิภาค./.
Thuy Van และ Đao Dung ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำฝรั่งเศส