ในการตอบสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม นาย Lucio Blanco Pitlo นักวิจัยของกองทุนเส้นทางพัฒนาเอเชีย – แปซิฟิกและศูนย์วิจัยสาธารณรัฐเกาหลีของมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ได้ย้ำว่า ในระยะยาว การรุกล้ำทะเลตะวันออกอย่างผิดกฎหมายของจีนจะส่งผลกระทบในทางลบต่อประเทศจีนเอง พร้อมทั้งเผยว่า จีนกำลังเพิ่มการแทรกแซงกิจกรรมด้านเศรษฐกิจทางทะเลที่ชอบด้วยกฎหมายของประเทศริมฝั่งทะเลเพื่อนบ้าน ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและอินโดนีเซีย พร้อมทั้งกดดันให้บริษัทและเครือบริษัทต่างชาติยุติการขุดเจาะน้ำมันในบริเวณ “เส้นประ 9 เส้น”ที่จีนเรียกร้องอธิปไตยเพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งในเขตทะเลใกล้เคียง ซึ่งคำประกาศของจีนได้ละเมิดกฎหมายสากล ซึ่งประเทศต่างๆในภูมิภาค เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์และมาเลเซียจะมีปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อทำการประท้วงต่อไป นาย Lucio Blanco Pitlo เผยว่า จีนนำเรือไหหยาง 8 รุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนามหลายครั้งก็เพื่อปฏิบัติแผนการแปรเขตทะเลที่อยู่ในอธิปไตยของเวียดนามให้เป็นเขตที่มีการพิพาท
“การที่จีนส่งเรือสำรวจรุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนามเป็นการละเมิด UNCLOS และกฎหมายเวียดนามอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า จีนพร้อมทำให้ความตึงเครียดมีความรุนแรงแต่ก็จะได้รับความเสี่ยงมากขึ้นจากปฏิบัติการดังกล่าว และแผนการนี้อาจส่งผลย้อนกลับที่ไม่ตรงความมุ่งหวังของจีนเพราะอันดับแรกคือจะทำให้เวียดนามต้องพยามปกป้องสิทธิผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในเขตทะเลของตนมากขึ้นและปลูกเร้าจิตใจแห่งความรักชาติของประชาชนเวียดนาม อันดับสองคือ ปฏิบัติการของจีนจะทำให้รัฐบาลสหรัฐเพิ่มการสนับสนุนเครือบริษัทปิโตรเลียม ExxonMobil มากขึ้นเพื่อลดแรงกดดันจากจีน สามคือ ปฏิบัติการของจีนทำให้อาเซียนมีความตั้งใจมากขึ้นเพื่อทำลายความพยายามของจีนที่มุ่งยับยั้งกลุ่มบริษัทต่างชาติไม่ให้ประกอบธุรกิจกับประเทศริมฝั่งทะเลในภูมิภาค”
นาย Lucio Blanco Pitlo ย้ำว่า การประกาศอธิปไตยที่ละเมิดกฎหมายของจีนจะไม่ได้รับการยอมรับจากประเทศต่างๆเป็นอันขาดและประชาคมโลกก็จะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลต่างๆของจีน ส่วนเวียดนามมีสิทธิเข้าร่วมปฏิบัติการส่งเสริมความมั่นคงและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับหุ้นส่วนต่างๆ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดียและยุโรปเพราะเวียดนามมีสิทธิอธิปไตยในเขตทะเลของตน.