ท็อป 10 ศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศชั้นนำของโลก

Chia sẻ

(VOVWORLD) - วันที่ 21 ธันวาคม รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศจัดตั้งศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศของเวียดนามและสภาบริหารศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศในเวียดนาม โดยมีรองนายกรัฐมนตรี เหงวียนหว่าบิ่งห์ เป็นประธานสภาฯ

โอกาสนี้ ส่วนกระจายเสียงต่างประเทศของสถานีวิทยุเวียดนามขอเสนอท็อป 10 ศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศชั้นนำของโลก ซึ่งจัดอันดับโดยองค์กร Z/Yen ของอังกฤษและสถาบันพัฒนาจีนหรือ CDI โดยในรายชื่อนี้ มีศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศในสหรัฐ 4 แห่ง ในประเทศจีน 3 แห่ง ในอังกฤษ 1 แห่ง ในสิงคโปร์ 1 แห่งและในสาธารณรัฐเกาหลี 1 แห่ง

ท็อป 10 ศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศชั้นนำของโลก - ảnh 1
การประชุมประกาศจัดตั้งศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศของเวียดนาม

1. นิวยอร์ก

นครนิวยอร์กในสหรัฐเป็นศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของโลก เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กหรือ NYSE และตลาดหลักทรัพย์เทคโนโลยี Nasdaq นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวมของธนาคารชั้นนำ เช่น Goldman Sachs และ Morgan Stanley รวมถึงเครือบริษัทที่มีเงินทุนนับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอุตสาหกรรมการเงินและการประกันภัยมีส่วนร่วมประมาณร้อยละ 8 ต่อจีดีพีของสหรัฐ สร้างงานทำราว 330,000 ตำแหน่งในนครนิวยอร์ก และประมาณ 9 ล้านตำแหน่งทั่วประเทศสหรัฐ ความแข็งแกร่งของนิวยอร์กมาจากตลาดทุน ธนาคาร การบริหารสินทรัพย์ รวมทั้งฟินเทค ที่มีมูลค่ามหาศาล

2. ลอนดอน

กรุงลอนดอนของอังกฤษเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมากกว่าร้อยละ 40 ของปริมาณการซื้อขายเงินตราต่างประเทศทั่วโลก นอกจากนี้อังกฤษยังอยู่แถวหน้าในด้านธุรกิจประกันภัยระดับโลก (โดยเฉพาะตลาด Lloyd’s) และมีความแข็งแกร่งในด้านการเงินแห่งสีเขียวและการบริหารทรัพย์สิน อุตสาหกรรมการเงินมีส่วนร่วมต่อจีดีพีของอังกฤษกว่าร้อยละ 12 ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ และสร้างงานทำราว 400,000–500,000 ตำแหน่งในกรุงลอนดอน และ 2.5 ล้านตำแหน่งทั่วประเทศ

3. ฮ่องกง

ฮ่องกง ประเทศจีน เป็นตลาดทุนที่เปิดกว้างที่สุดในเอเชียและเป็นประตูสำคัญในการเชื่อมโยงกับจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อปี 2022 ภาคบริการทางการเงินมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 23 ของจีดีพีของเมือง และสร้างงานทำ 270,000 ตำแหน่ง คิดเป็นร้อยละ 7 ของงานทำทั้งหมด จุดแข็งของฮ่องกงอยู่ที่การจดทะเบียนหุ้น การบริหารทรัพย์สินและการชำระเงินสกุลเงินหยวนหรือ RMB นอกประเทศจีน

4. สิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางด้านการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเสียงด้านความโปร่งใส เสถียรภาพทางการเมืองและกฎหมายที่ปลอดภัย สิงคโปร์เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมฟินเทค ธนาคารดิจิทัลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้ สิงคโปรยังมีจุดแข็งด้านการเงินเพื่อการค้า การเงินในการเดินเรือทางทะเลและบริการบริหารความเสี่ยงระดับโลก โดยภาคบริการการเงินคิดเป็นร้อยละ 14 ของจีดีพีประเทศ จ้างแรงงานราว 270,000 คน คิดเป็นร้อยละ 7 ของแรงงานทั้งหมดและเน้นในสาขาต่าง ๆ เช่น ธนาคาร การประกันภัยและฟินเทค

5. ซานฟรานซิสโก

ความแข็งแกร่งของซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐ มาจากความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งเป็นระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซานฟรานซิสโกเป็นศูนย์กลางของกองทุนผจญภัยและแหล่งเงินทุนสำหรับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี โดยจุดแข็งของซานฟรานซิสโกคือการพัฒนาของบล็อกเชน เงินดิจิทัล การชำระเงินดิจิทัลและบริการทางการเงินที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ การลงทุนผจญภัยและฟินเทคได้สร้างระบบเศรษฐกิจนวัตกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่จีดีพีของสหรัฐ

ท็อป 10 ศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศชั้นนำของโลก - ảnh 2
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เคยเดินทางมาเยือนและตีระฆังเปิดการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก NYSE

6. ชิคาโก

ชิคาโก ประเทศสหรัฐ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงด้านตราสารอนุพันธ์” ของโลก เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ CME Group และ Cboe   ชิคาโก ยังเป็นเมืองนำหน้าในการทำธุรกรรมสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและเครื่องมือเพื่อป้องกันความเสี่ยงให้แก่อุตสาหกรรมพลังงาน เกษตรกรรมและการเงิน โดยภาคบริการทางการเงินมีส่วนร่วมต่อจีดีพีของรัฐอิลลินอยส์ได้ร้อยละ 8 และใช้แรงงานมากกว่า 330,000 คน

7. ลอสแอนเจลิส

ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐ เป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ในการบริหารทรัพย์สิน กองทุน และการเงินด้านบันเทิงของสหรัฐ ภาคบริการทางการเงินมีส่วนร่วมต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งจุดเด่นของลอสแอนเจลิสคือ การเชื่อมโยงระหว่างภาคการเงิน อุตสาหกรรมภาพยนตร์และอสังหาริมทรัพย์

8. เซี่ยงไฮ้

เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศชั้นนำของจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ ตลาด STAR และธนาคารภาครัฐต่างๆ เซี่ยงไฮ้กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการออกพันธบัตรแห่งสีเขียวและการเงินโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยั่งยืน

9. เซินเจิ้น

เซินเจิ้น – ประเทศจีน เป็นศูนย์กลางด้านการเงินที่ได้รับการผลักดันโดยเครือบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ๆ เช่น Tencent และ Ping An โดยจุดแข็งของเซินเจิ้นอยู่ที่ฟินเทค  การชำระเงินดิจิทัล การลงทุนผจญภัยและบล็อกเชน เซินเจิ้นเป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบนวัตกรรมแบบซิลิคอนวัลเลย์กับตลาดทุนและธนาคาร

10. กรุงโซล

กรุงโซลเป็นศูนย์กลางด้านการเงินและเทคโนโลยีของสาธารณรัฐเกาหลี เป็นที่ตั้งของธนาคารรายใหญ่ๆ บริษัทประกันภัยและตลาดหลักทรัพย์สาธารณรัฐเกาหลี โดยจุดแข็งของกรุงโซลอยู่ที่พันธบัตร เทคโนโลยีการชำระเงินและธนาคารดิจิทัล.


คำติชม