 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝ่ามบิ่งมิงห์กล่าวปราศรัยในพิธี (Photo thegioi & vietnam) |
ในการกล่าวปราศรัยในพิธี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝ่ามบิ่งมิงห์ได้สรุปผลสำเร็จในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมของประเทศเวียดนามในปี 2019 โดยย้ำถึงส่วนร่วมทั้งในด้านสติปัญญา ทรัพย์สินและจิตใจที่เป็นรูปธรรมของชาวเวียดนามโพ้นทะเลประมาณ 4.5 ล้านคนทั่วโลก “แนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐเวียดนามคือถือชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศคือส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประเทศได้และเป็นแหล่งพลังที่สำคัญของประชาชาติเวียดนาม ชาวเวียดนามโพ้นทะเลมีศักยภาพมาก โดยในเวลาข้างหน้า กระทรวงการต่างประเทศจะเดินพร้อมกับชาวเวียดนามโพ้นทะเลทั่วโลกเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติหน้าที่การพัฒนาประเทศและการสร้างสรรค์กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติและยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีโลกมากขึ้น”
ในนามของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ เหงียนฟู้จ่องและผู้นำพรรคและรัฐเวียดนาม นาง ดั๋งถิหงอกถิ่ง รองประธานประเทศเวียดนามได้กล่าวอวยพรปีใหม่ต่อชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ พร้อมทั้งย้ำถึงความสำคัญของปี 2020 และเรียกร้องให้ชาวเวียดนามทั้งภายในและต่างประเทศร่วมกันส่งเสริมความรักชาติ ความสามัคคีและความภาคภูมิใจเกี่ยวกับประชาชาติ พยายามสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามให้เจริญรุ่งเรือง
ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทน 400 คนของชาวเวียดนามโพ้นทะเล 1,500 คนที่กลับประเทศเพื่อเข้าร่วมรายการดังกล่าว โดยแจ้งผลสำเร็จของเวียดนามในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสถานะของเวียดนามที่นับวันได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นบนเวทีโลก พร้อมทั้งชื่นชมจำนวนเงินที่คนเวียดนามโพ้นทะเลได้ส่งกลับประเทศในปี 2019 ซึ่งช่วยให้เวียดนามติดกลุ่ม 10 ประเทศที่ได้รับเงินตราจากชาวเวียดนามโพ้นทะเลมากที่สุด ตลอดจนย้ำถึงความท้าทายต่อการพัฒนาของประเทศในเวลาที่จะถึง โดยเรียกร้องให้ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศร่วมแรงร่วมใจกับพรรคและรัฐเวียดนามมากขึ้นเพื่อสร้างสรรค์ประเทศให้เจริญรุ่งเรือง นายกรัฐมนตรียังกำชับให้ชาวเวียดนามโพ้นทะเลพยายามธำรงรักษาภาษาเวียดนาม เอกลักษณ์วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีเวียดนาม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เพื่อรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวและภูมิลำเนาเพื่อมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างประเทศที่ตนกำลังอาศัยอยู่กับประเทศเวียดนาม.