|
วิทยากรต่างชาติเซ็นชื่อในแผนที่ของเวียดนามที่ยืนยันอธิปไตยเหนือหมู่เกาะ
หว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือเสปตลีย์ของเวียดนาม |
(VOVworld) – นี่เป็นการยืนยันของบรรดาวิทยากรต่างชาติในการเสวนาเพื่อประเมินปฏิบัติการของจีนที่ติดตั้งแท่นขุดเจาะในเขตทะเลของเวียดนามอย่างผิดกฏหมาย ที่จัดขึ้น ณ นครดานัง เช้าวันที่๒๑เดือนนี้ บรรดาผู้แทนได้วิเคราะห์เจตนาของจีนที่ติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง๙๘๑ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม แง่มุมทางนิตินัยและการกระทำที่ผิดพลาดนี้ ตำหนิการติดตั้งแท่นขุดเจาะ โดยเฉพาะ การใช้ความรุนแรงของเรือจีนที่พุ่งชน ฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือบังคับใช้กฎหมายของเวียดนามที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในทะเลและพุ่งชนเรือประมงเวียดนามจนอับปาง เพื่อรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในเขตทะเลตะวันออก ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องควรใช้ความอดกลั้น ขยายการสร้างความไว้วางใจ ไม่มีปฏิบัติการเพียงลำพังฝ่ายเดียวที่ทำให้สภาพของทะเลตะวันออกมีการเปลี่ยนแปลง บรรดาวิทยากรได้เรียกร้องให้จีนร่วมกับประเทศอาเซียนจัดทำระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกที่มีผลผูกมัดให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อยับยั้งปฏิบัติการที่สร้างความตึงเตรียดในทะเลตะวันออก การอาศัยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พื้นฐานทางนิตินัยและกฎหมายสากลเพื่อแก้ไขการพิพาทเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์มีความหมายสำคัญต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ เสรีภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือในทะเลตะวันออก การใช้กำลังเพื่อทำลายสภาพที่เป็นอยู่ สร้างความไร้เสถียรภาพในภูมิภาค ละเมิดอธิปไตยทางดินแดนของประเทศอื่นๆเพื่อปฏิบัติแผนการยึดครองทะเลตะวันออกของไม่ว่าฝ่ายใดถือเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ศาสตราจารย์เอริก ฟรานซ์จากมหาวิทยาลัยบรัสเซลประเทศเบลเยี่ยมกล่าวว่า“พวกเราต้องครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหาใน๒แง่มุมที่แตกต่างกันเพื่อกำหนดอธิปไตยของภูมิภาคนี้บนพื้นฐานของกฎหมายสากล ตามความเห็นของผม หลักฐานข้อมูลที่เวียดนามเสนอน่าเชื่อถือมากกว่าหลักฐานของจีน แม้จีนจะเข้าร่วมการฟ้องร้องหรือไม่แต่เวียดนามควรยื่นเสนอปัญหานี้ต่อศาลโลกเพื่อแสวงหาการสนับสนุนจากประชามติโลก”
เช้าวันเดียวกัน ได้มีการจัดงานนิทรรศการในหัวข้อ“หว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือเสปรตลีย์เป็นดินแดนส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกจากเวียดนาม” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เอกสารและสิ่งของวัตถุได้รับการแนะนำโดยยืนยันว่า เวียดนามได้กำหนดและปฏิบัติอธิปไตยเหนือหมู่เกาะสองแห่งดังกล่าวอย่างสันติ และต่อเนื่องในหลายศตวรรษที่ผ่านมา นักวิจัยบุ่ยวันเตี๊ยง นายกสมาคมนักประวัติศาสตร์นครดานังกล่าวว่า หลักฐานทางประวัติศาสตร์และพื้นฐานทางนิตินัยของเวียดนามได้ยืนยันอธิปไตยอันศักดิ์สิทธิ์ของเวียดนามเหนือหมู่เกาะสองแห่งนี้“นี่คือหลักฐานข้อมูลที่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ทางการทูต และช่วยให้พวกเรามีหลักฐานทางประวัติศาตร์และพื้นฐานทางนิตินัยที่สมบูรณ์เพื่อประสบชัยชนะ ผมเห็นว่า หลักฐานที่พวกเราจัดแสดงในนิทรรศการนี้ช่วยให้บรรดานักวิจัย โดยเฉพาะวิทยากรนานาชาติมีข้อมูลเพื่อร่วมกับพวกเราต่อสู้เรียกร้องให้จีนถอนแท่นขุดเจาะออกจากเขตทะเลของเวียดนาม” ./.