บ่ายวันที่ 20 มีนาคม นาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐได้เดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟ เพื่อเริ่มการเยือนประเทศอิสราเอลอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นประเทศแรกในการเยือนตะวันออกกลางของนาย โอบาม่า เป็นเวลา 3 วัน เพื่อหารือเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์และโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยได้เผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอิสราเอลเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและถาวร ในกรอบการเยือนอิสราเอล นาย บารัค โอบาม่า ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติจากประธานาธิบดี Shimon Peres นาย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีและสมาชิกของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของอิสราเอล โดยในการกล่าวปราศรัย ณ พิธีต้อนรับ นาย เบนจามิน เนทันยาฮู ได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดี โอบาม่า ที่ได้สนับสนุนอิสราเอลในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ของภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนนาย Shimon Peres ได้ให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนของสหรัฐที่มีต่ออิสราเอล
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกันหลังการเจรจากับนาย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวถึงสิทธิการป้องกันตนเองของอิสราเอลจากภัยคุกคามของอิหร่าน แต่ยืนยันว่า ยังมีเวลาพิจารณาเพื่อใช้มาตรการทางการทูต ต่อคำถามที่เขาจะเสนอให้นาย เบนจามิน เนทันยาฮู เพิ่มความอดกลั้นในการไม่โจมตีอิหร่าน หรือไม่ นาย บารัค โอบาม่า ได้เผยว่า ประเทศต่างๆต้องตัดสินใจว่า จะใช้ปฏิบัติการทางทหารหรือไม่ อย่างไรก็ดี นาย โอบาม่า ยังกล่าวถึงปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านว่า ยังมีเวลาเพื่อปฏิบัติมาตรการทางการทูต นาย โอบาม่าและนาย เบนจามิน เนทันยาฮู ได้เห็นพ้องกันว่า จะประสานงานกันมากขึ้นเพื่อขัดขวางไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง ทั้ง 2 ฝ่ายยังหารือเกี่ยวกับมาตรการรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์และวิกฤติการเมืองในซีเรีย ในวันที่ 21 มีนาคม นาย โอบาม่า ยังมีการเจรจากับนาย มาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ณ เมือง Ramallah./.