ผู้นำทั้งสองท่านเข้าร่วมการเจรจา

ในการเจรจา ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การเยือนจะมีส่วนร่วมเสริมสร้างและขยายความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือที่มีมาช้านานระหว่างประชาชนเวียดนามกับอิหร่าน พร้อมทั้งเสนอให้ทั้งสองฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายที่ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันโดยเร็ว นั่นคือเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 5 ปีข้างหน้า ขอให้อิหร่านให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้เครือบริษัทโทรคนาคมของกองทัพเวียดนามหรือเวียดเทล สามารถเข้าร่วมโครงการโทรคมนาคมต่างๆในอิหร่าน

ส่วนประธานรัฐสภาอิหร่าน Ali Ardeshir Larijani ได้ยืนยันว่า มีความเป็นไปได้ที่มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะสามารถบรรลุ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะในด้านปิโตรเลี่ยม อิหร่านสามารถสนับสนุนเวียดนาม โดยจัดสรรผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ก๊าซปิโตรเลียมเหลวและยางมะตอย อิหร่านมีความประสงค์ที่จะเรียนรู้ประสบการณ์จากเวียดนามในการผลิตเกษตร ทั้งสองฝ่ายสามารถผลักดันความร่วมมือในด้านสาธารณสุข วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและการศึกษา ในเวลาข้างหน้า ทั้งสองฝ่ายควรมุ่งสู่การเปิดเส้นทางบินตรงเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ

ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า ในเวลาข้างหน้าจะแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ โดยเฉพาะระดับสูง ประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้งสหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียู สำหรับสถานการณ์ในทะเลตะวันออก ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามเผยว่า เวียดนามมีแนวทางแก้ไขการพิพาทต่างๆในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ส่วนประธานรัฐสภาอิหร่านก็เผยว่า อิหร่านมีแนวคิดเช่นเดียวกับเวียดนามคือให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการใช้มาตรการทางการทูตเพื่อแก้ไขการพิพาทต่างๆ.