(VOVworld)- วันที่ 22 มกราคม การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ได้ย่างเข้าสู่วันที่สองภายใต้อำนวยการของนายเหงียนซิงหุ่ง สมาชิกกรมการเมืองพรรคและประธานรัฐสภาเวียดนามโดยรับฟังขอเสนอต่างๆที่เสริมเพิ่มเติมและชี้แจ้งเนื้อหาใหม่ๆและเนื้อหาสำคัญของร่างเอกสารการประชุมฯ

ในการนี้ นายเหงียนเถียนเญิน สมาชิกกรมการเมืองพรรคและประธานแนวร่วมปิตุภูมิได้อ่านบทสุนทรพจน์ภายใต้หัวข้อ “ ส่งเสริมพลังอันแข็งแกร่งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ เพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมให้ประสบความสำเร็จ เข้าร่วมการสร้างสรรค์พรรคและรัฐบาลให้มีความบริสุทธิ์และเข้มแข็ง” ที่ระบุ 5 หน้าที่ใหญ่ที่ต้องปฏิบัติในระยะปัจจุบัน ส่วนในนามของคณะผู้แทนกองทัพเวียดนาม พลเอกโงซวนหลิก สมาชิกคณะเลขาธิการส่วนกลางพรรค หัวหน้าทบวงการเมืองกองทัพประชาชนเวียดนามได้อ่านสุนทรพจน์ภายใต้หัวข้อ “ กองทัพประชาชนเวียดนามพัฒนาบทบาทแกนหลักในภารกิจด้านกลาโหมและการป้องกันประเทศเพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างงานด้านกลาโหมและปกป้องประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พลเอกโงซวนหลิกเผยว่า “ในสภาวการณ์ที่ซับซ้อนและยากที่จะสามารถคาดการณ์ได้รวมทั้งสภาวการณ์ใหม่ในการปกป้องประเทศปัจจุบัน การเพิ่มการป้องกันประเทศและสร้างสรรค์กองทัพประชาชนแห่งการปฏิวัติให้เป็นแบบแผน ชาญศึกและทันสมัยมากขึ้นเป็นหน้าที่สำคัญพิเศษและเป็นหน้าที่หลักในการเสริมสร้างพลังภายในและพลังของประเทศ จากผลสำเร็จในวาระที่ผ่านมา พรรคสาขากองทัพประชาชนเวียดนามมีความเชื่อมั่นว่า ในวาระต่อไป จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในภารกิจการสร้างสรรค์กองทัพดังกล่าว เพื่อเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การสร้างสรรค์และปกป้องประเทศสังคมนิยมเวียดนาม”

สิ่งที่น่าสนใจในการประชุมวันนี้คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนบุ่ยกวางวิงห์ได้อ่านบทบรรณาธิการเกี่ยวกับ “ การผลักดันการปรับปรุงระเบียบการเพื่อมุ่งสู่ประเทศเวียดนามที่เจริญรุ่งเรือง มีความคิดสร้างสรรค์และยุติธรรม” โดยวิเคราะห์ผลสำเร็จและข้อจำกัดต่างๆในตลอด 30ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ โดยย้ำถึงความหมายชี้ขาดของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจเวียดนาม พยายามหลีกเลี่ยงกับดักรายได้ปานกลาง ตลอดจนย้ำถึง 3 เสาหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจในเวลาข้างหน้า ประกอบด้วย การพัฒนาเศรษฐกิจต้องเดินพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเวียดนามต้องมีอัตราการขยายตัวสูงและมีเสถียรภาพใน 20 ปีข้างหน้าโดยอัตราการขยายตัวของจีดีพีต้องอยู่ที่ร้อยละ 8 สองคือ ความยุติธรรมและความเสมอภาคให้แก่ทุกคน สามคือยกระดับทักษะความสามรถและความรับผิดชอบในการชี้แจงของรัฐ .