ภาพของการประชุม |
ในการนี้ รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ได้ย้ำว่า
“กิจกรรมนี้มีความหมายพิเศษ ซึ่งมีขึ้นก่อนการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นี่เป็นกิจกรรมที่สำคัญในขณะที่ทั้งสองประเทศรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2023 ในเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงระหว่างสองประเทศได้ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ-การค้าได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี ปัจจุบัน มาเลเซียเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนามในอาเซียนและหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 9 ของโลก ในขณะที่มาเลเซียเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มียอดเงินลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม”
ส่วน สว. Zambry Abdul Kadir ยืนยันว่า มาเลเซียให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเวียดนามและความร่วมมือในฟอรั่มระดับภูมิภาค ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะยื่นเสนอแนวทางใหญ่เพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ต่อนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้แก่ การผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ขยายความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่น 8 พันล้านดลอลาร์สหรัฐ ลดการกีดกันทางการค้า ใช้โอกาสจากข้อตกลงการค้าในภูมิภาคที่ทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม ประสานงานอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคี ร่วมกับบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนส่งเสริมความสามัคคี บทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาในภูมิภาค คาดว่า การประชุมครั้งที่ 8 จะมีขึ้นในปี 2025 ณ ประเทศมาเลเซีย.