การปฏิบัติโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Son La เป็นหน้าที่สำคัญในระยะยาว

Chia sẻ
(VOVworld) –  ท่าน Hoang Trung Hai สั่งให้ท้องถิ่นปฏิบัติตามรูปแบบการผลิตอุตสาหกรรมและหัตถกรรมควบคู่กับการพัฒนาเกษตร ป่าไม้ การย้ายประชาชนเพื่อเวนคืนที่ดินให้แก่การก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ Son La และ Lai Chau 

การปฏิบัติโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Son La เป็นหน้าที่สำคัญในระยะยาว - ảnh 1
ท่าน Hoang Trung Hai เข้าร่วมพิธีทดลองเดินเครื่องเครื่องปั่นไฟหมายเลข 5
(Photo Internet)

(VOVworld) –  เช้าวันที่ 25 เดือนนี้ ท่าน Hoang Trung Hai รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามและหัวหน้าคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Son La และLai Chau ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชี้นำเพื่อสรุปการปฏิบัติงานใน 6 เดือนที่ผ่านมาโดยกำชับว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างและนักลงทุนต้องพยายามบรรลุเป้าหมายการป้องกันน้ำท่วมด้วยการปฏิบัติโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้งสองแห่งดังกล่าว ตลอดจนส่งเสริมการย้ายประชาชนไปอาศัยในเขตอื่นและการคำนวนเงินลงทุนก่อสร้างกิจกรรมย่อยต่างๆ โดยยืนยันว่า การย้ายประชาชนไปอาศัยอยู่ในเขตอื่นจะเป็นหน้าที่ในระยะยาวโดยต้องตรวจสอบการวางผังเมืองให้เหมาะสมและให้สิทธิพิเศษอย่างถูกต้องต่อโครงการต่างๆ นอกจากนี้ ท่าน Hoang Trung Hai ยังสั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ประสานงานกับกระทรวงการเกษตรและการพัฒนาชนบทเพื่อแนะนำให้ท้องถิ่นปฏิบัติตามรูปแบบการผลิตอุตสาหกรรมและหัตถกรรมควบคู่กับการพัฒนาเกษตร ป่าไม้ การย้ายประชาชนเพื่อเวนคืนที่ดินให้แก่การก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ Son La และ Lai Chau เสนอมาตรการพัฒนาอาชีพเสริมที่สอดคล้องกับท้องถิ่นเพื่อพัฒนาเขตอาศัยใหม่ของประชาชนอย่างยั่งยืน ก่อนหน้านั้น ในพิธีทดลองเดินเครื่องเครื่องปั่นไฟหมายเลข 5 ในโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ Son La ท่าน Hoang Trung Hai ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องส่งเสริมการก่อสร้างให้ตรงตามแผนการที่กำหนดและรักษาคุณภาพเพื่อให้เครื่องปั่นไฟหมายเลข 5 สามารถเดินเครื่องอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 เมษายนนี้ นอกจากนี้ต้องพยายามให้เครื่องปั่นไฟหมายเลข 6 เดินเครื่องให้ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้และกำชับว่า “เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว กรรมกรทุกคนต้องใช้ไหวพริบที่เฉลียวฉลาดเพื่อสามารถเสร็จสิ้นการก่อสร้างตรงตามเวลาที่กำหนด ส่วนท้องถิ่นที่ได้เสริ้จสิ้นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเขตอาศัยใหม่ของประชาชนแล้วก็ต้องย้ายครอบครัวกว่า 2หมื่นครอบครัวออกจากเขตที่จะกลายเป็นเขตกักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อน./.

คำติชม