นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง |
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแปรมติของกรมการเมืองพรรคและการจัดทำมติของสภาแห่งชาติให้เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนอย่างรวดเร็วและยั่งยืน กลไกและนโยบายต้องเป็น “พื้นฐานและแรงกระตุ้น” เกาะติดสถานการณ์และสอดคล้องกับเงื่อนไขในปัจจุบันเพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่น การพึ่งตนเอง และความภาคภูมิใจในการมุ่งมั่นพัฒนา ใช้ประโยชน์จากพลังทุกแหล่งอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมนวัตกรรม การผลิตและประกอบธุรกิจ การเติบโตและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างงานทำให้แก่ประชาชน
นายกรัฐมนตรีเสนอให้จัดทำกลไกและนโยบายที่แข็งแกร่งเพื่อให้เครือบริษัทด้านเศรษฐกิจเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานระดับโลกและกลายเป็นเครือบริษัทข้ามชาติ ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกเพื่อให้ธุรกิจครัวเรือนพัฒนาเป็นสถานประกอบการ สถานประกอบการขนาดเล็กกลายเป็นสถานประกอบการขนาดย่อม สถานประกอบการขนาดย่อมกลายเป็นสถานประกอบการขนาดใหญ่
“ต้องทบทวนนโยบายอย่างรอบคอบเพื่อค้ำประกันเสรีภาพทางธุรกิจ ความเท่าเทียมกันและการแข่งขันที่โปร่งใสในการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงเงินทุน ที่ดิน และทรัพย์สินสาธารณะ ค้ำประกันสิทธิด้านทรัพย์สิน เสรีภาพในการประกอบธุรกิจ ส่งเสริมเสรีภาพทางธุรกิจ และความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน.”