นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง (VGP)

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญถึงความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเยอรมนี มีความประสงค์กระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนใกล้ชิดและน่าไว้วางใจในทุกด้านหว่างสองประเทศ ส่วนนายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้เผยว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในนโยบายมุ่งสู่ภูมิภาคของเยอรมนี ให้ความสำคัญถึงความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับเยอรมนีและย้ำว่า ทั้งสองประเทศกำลังมีทั้งโอกาสและศักยภาพที่ยิ่งใหญ่จึงต้องส่งเสริมอย่างเข้มแข็ง

ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่า จะประสานงานอย่างใกล้ชิด ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – อียู นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งเสนอให้รัฐบาลเยอรมนีอำนวยความสะดวกให้แก่การส่งออกสินค้าเกษตรและสัตว์น้ำของเวียดนาม โดยเฉพาะผลไม้เวียดนามที่กำลังเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว ผลักดันอีซียกเลิก “ใบเหลือง” ต่อสัตว์น้ำเวียดนามและเสร็จสิ้นการให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม – อียู

นายกรัฐมนตรีเยอรมนียืนยันว่า ข้อตกลงอีวีเอฟทีเอและอีวีไอพีเอคือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อขยายความสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งย้ำว่า สถานประกอบการเยอรมนีให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึงประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะในด้านพลังงานหมุนเวียน โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมแปรรูป เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้เสนอให้เยอรมนีอำนวยความสะดวกให้เวียดนามเข้าถึงแหล่งวัคซีนโดยเร็วและร่วมมือแลกเปลี่ยนเทคโนโลยการผลิตวัคซีนกับบริษัทเภษัชภัณฑ์ของเยอรมนี นายกรัฐมนตรีเยอรมนียืนยันขยายความร่วมมือกับเวียดนามในการป้องกันโควิด -19

นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ให้ความสำคัญและยืนยันประสานงานอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนระหว่างเวียดนามกับเยอรมนีในฟอรั่มและองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอียู สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคง การเดินเรือและการบินอย่างเสรีและปลอดภัย การให้ความเคารพต่อกฎหมายคือผลประโยชน์ร่วมของประชาคมระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องผลักดันให้ทุกฝ่ายปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และจริงจังและเจรจาเพื่อจัดทำซีโอซีโดยเร็ว ให้สอดคล้องกับกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982.