|
(Photo RIA) |
กิจกรรมต่างๆเพื่อรำลึกครบรอบ๖๘ปีวันชัยชนะฟาสซิสต์ ซึ่งตรงกับวันที่๙พฤษภาคม ได้มีขึ้นในหลายประเทศเพื่อเป็นการรำลึกถึงความกล้าหาญของกองทัพและประชาชนโซเวียดในการป้องกันประเทศและช่วยมนุษยชาติหลุดพ้นจากลัทธิฟาสซิสต์
เช้าวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ คณะกรรมการประชาชนจังหวัด Khánh Hòa และสหพันธ์องค์กรมิตรภาพจังหวัดได้ร่วมกับบริษัทร่วมทุน Vietso Petro จัดพิธีรำลึกชัยชนะฟาสซิสต์ และครบรอบ 59 ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู ซึ่งตรงกับวันที่ 7 พฤษภาคม โดยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆและบริษัทร่วมทุนระหว่างเวียดนามกับรัสเซียได้จุดธูปและวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์รำลึกทหารและประชาชนสหภาพโซเวียตและเวียดนามที่สละชีพเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในนคร Cam Ranh ส่วนที่นครโฮจิมินห์ ก็ได้มีการจัดพิธีรำลึกครบรอบ 68 ปีชัยชนะฟาสซิสต์เช่นกัน โดยบรรดาผู้แทนได้ยืนยันว่า ชัยชนะฟาสซิสต์มีความหมายพิเศษต่อชาวโลก รวมทั้งประชาชนรัสเซีย โดยสำหรับประเทศเวียดนาม ชัยชนะนี้ได้มีส่วนร่วมทำลายระบบล่าอาณานิคมเพื่อสนับสนุนการปฏิวัติเดือนสิงหาคมให้ประสบความสำเร็จ ในการนี้ นาย Vladimir Klimov กงสุลรัสเซียประจำนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า
ประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ซื่อสัตย์ บนพื้นฐานของความเคารพเกียรติประวัติแห่งการสู้รบอันรุ่งโรจน์ของแต่ละประเทศ ซึ่งความสัมพันธ์นี้ จะไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายได้ โดยชาวเวียดนามทุกคนต่างจดจำและรำลึกถึงชัยชนะฟาสซิสต์ ส่วนที่รัสเซีย ประชาชนก็กล่าวถึงชัยชนะ วันที่ 30 เมษายน ปลดปล่อยภาคใต้และรวมประเทศเวียดนามเป็นเอกภาพ และชัยชนะเดียนเบียนฟู วันที่ 7 พฤษภาคม ผมมีความเชื่อมั่นว่า การให้การศึกษาเกียรติประวัติอันรุ่งโรจน์ของ 2 ประชาชาติแก่ชนรุ่นหลังจะมีส่วนร่วมทำนุบำรุงความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
โอกาสนี้ หนังสือพิมพ์ Quân đội nhân dân หรือกองทัพประชาชนของเวียดนามฉบับวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “ สองประชาชาติ-สงคราม 2 ครั้ง - 2 ชัยชนะ” ที่ยกย่องชัยชนะแห่งประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของ สองชาติ และสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและใกล้ชิดระหว่างเวียดนามกับรัสเซีย โดยระบุว่า ชัยชนะวันที่ 30 เมษายนในเวียดนามและวันที่ 9 พฤษภาคมในรัสเซียต่างได้นำความสงบสุขมาสู่ประเทศ ซึ่งความทรงจำแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่นี้เป็นมรดกทางจิตใจของคนเวียดนามและคนรัสเซียในปัจจุบัน โดยที่ประเทศรัสเซีย นี่เป็นโอกาสให้ประชาชนสำนึกในบุญคุณของชนรุ่นก่อนที่ได้สละชีพเพื่อชาติในสงครามป้องกันประเทศ รวมทั้งทหารอาสาเวียดนามที่เสียชีวิตในการสู้รบ ณ เขตชานเมืองกรุงมอสโคว์ เมื่อปี 1941 บทความได้สรุปว่า ถึงแม้ว่า เวียดนามและรัสเซียจะมีความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน แต่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศก็ยังคงจดจำชัยชนะอันรุ่งโรจน์ดังกล่าวได้และมีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์และทำนุบำรุงสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ประชาชาติให้พัฒนายั่งยืนตลอดไป
วันที่๙พฤษภาคม ณ ประเทศรัสเซีย ได้มีการจัดการเดินขบวนพาเหรดอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนหน้านั้น วันที่๘พฤษภาคม ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมีย ปูตีน นายกรัฐมนตรีดมีตรี เมดเวเดฟพร้อมสมาชิกรัฐบาล ตัวแทนพรรคการเมือง องค์การทหารผ่านศึกและองค์การสังคมเป็นต้นได้ไปวางพวงมาลาที่สุสานทหารนิรนามใกล้วังเครมลิน ในวันเดียวกัน บรรดาผู้นำสาธารณรัฐเช็กได้เข้าร่วมกิจกรรมรำลึกที่เขตสุสานทหารนิรนามในกรุงปราก ส่วนที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตัวแทนรัฐบาลและรัฐสภาเยอรมนี ตัวแทนสถานทูตรัสเซีย เครือรัฐเอกราชหรือ SNGและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ประจำเยอรมนี ทหารผ่านศึกและองค์การสังคมได้ไปวางพวงมาลาที่อนุสรณ์สถานทหารโซเวียดปลดปล่อยเบอร์ลิน ณ สวนสาธารณะTreptov ส่วนที่กรุงปารีส ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ได้เข้าร่วมพิธีรำลึกภายใต้ชื่อ“วันแห่งชัยชนะในยุโรป”ในโอกาสรำลึกครบรอบ ๖๘ ปีวันยุติสงครามโลกครั้งที่๒ กิจกรรมรำลึกในลักษณะเดียวกันยังได้มีขึ้นในประเทศเดนมาร์ก บัลแกเรียและฟินแลนด์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่๒ ได้มีชาวโซเวียดเกือบ๒๗ล้านคน ซึ่งเป็นทหาร โซเวียดกว่า๘ล้านนายสละชีวิตเพื่อปกป้องปิตุภูมิและทำลายกองทัพฟาสซิสต์ในยุโรป./.
|
|
|
|