ในรายงานที่ประกาศก่อนการประชุมระดับสูงเกี่ยวกับการครอบคลุมด้านสาธารณสุขในหมู่ประชาชน เมื่อวันที่ 21 กันยายน ในกรอบสัปดาห์ผู้นำของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 78  องค์การอนามัยโลกหรือ WHO เตือนว่า ประชากรโลกครึ่งหนึ่งคือ 4.5 พันล้านคนขาดการบริการสาธารณสุขที่จำเป็น ซึ่งในนั้น มีประชาชนประมาณ 2 พันล้านคนประสบความยากลำบากในการใช้จ่ายด้านสาธารณสุขและประชาชนประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะตกเข้าสู่ภาวะยากจนเนื่องจากพยายามเข้าถึงการบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน  รายงานดังกล่าวชี้ชัดว่า ในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา มีเพียง 1 ใน 3 ประเทศในโลกที่ปรับปรุงอัตราการครอบคลุมของระบบการดูแลสาธารณสุขและลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขต่อประชาชน

นาย ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO เตือนว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 เป็นคำเตือนว่า ประเทศต่างๆ จะไม่สามารถมีสังคมและเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ถ้าหากปัญหาสาธารณสุขไม่ได้รับการให้ความสำคัญ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ส่งเสริมความตั้งใจทางการเมืองและผลักดันการลงทุนด้านสาธารณสุข“ผมขอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ปฏิบัตินโยบายด้านการเงินให้แก่การครอบคลุมด้านสาธารณสุขในหมู่ประชาชน ผ่านการเพิ่มการลงทุนด้านการดูแลสาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและการคุ้มครองการเงิน โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มเสี่ยง”

หลังการประชุม บรรดาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้อนุมัติแถลงการณ์ทางการเมือง คำมั่นเกี่ยวกับการผลักดันการลงทุนแห่งชาติ ความร่วมมือและความสามัคคีระหว่างประเทศในระดับการเมืองที่สูงสุดเพื่อบรรลุความก้าวหน้าด้านการบริการสาธารณสุขที่จำเป็นตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี 2030

บรรดาผู้เชี่ยวชาญพยากรณ์ว่า โลกต้องการเงินลงทุนมูลค่า 2 แสนล้าน- 3 แสน 2 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อผลักดันการบริการสาธารณสุขที่จำเป็นในประเทศที่มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ .