ภาพการแถลงข่าว |
บนพื้นฐานของผลการประชุมระดับรัฐมนตรีประเทศต่างๆที่เข้าร่วมข้อตกลงทีพีพี เมื่อเดือนพฤษภาคมปี2017 บรรดารัฐมนตรีได้อนุมัติชื่อใหม่ของข้อตกลง TPP ที่ประกอบด้วย11ประเทศสมาชิกคือ “ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิก”หรือ CPTPP พร้อมทั้ง ออกแถลงการณ์ร่วมที่ยืนยันว่า ประเทศสมาชิก TPP ได้เห็นพ้องเกี่ยวกับปัญหาหลักของข้อตกลงนี้ โดยมีการคงเนื้อหาของข้อตกลง TPP แต่อนุญาตให้ประเทศสมาชิกเลื่อนการปฏิบัติ1หน้าที่เพื่อค้ำประกันความสมดุลย์ในสภาวการณ์ใหม่ ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เช้าวันที่11พฤศจิกายน นาย เจิ่นต๊วนแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้เผยว่า“ในสภาวการณ์ใหม่ ประเทศต่างๆต่างยืนยันถึงความตั้งใจในทุกด้านและพร้อมเพรียง ซึ่งถือเป็นเป้าหมายร่วม โดยมีการคงข้อกำหนดบางข้อ ซึ่งข้อตกลง CPTPPไม่เพียงแต่มีความแตกต่างเกี่ยวกับจำนวนประเทศสมาชิกเท่านั้นหากยังเป็นการยืนยันถึงจุดยืนเกี่ยวกับการเปิดตลาดอีกด้วย”
บรรดารัฐมนตรีได้เห็นพ้องกันว่า ข้อตกลง CPTPPเป็นข้อตกลงที่ค้ำประกันความสมดุลย์ผลประโยชน์ของประเทศสมาชิกที่มีการคำนึงถึงระดับการพัฒนาของประเทศต่างๆ บนพื้นฐานของแถลงการณ์ดังกล่าว บรรดารัฐมนตรีได้กำชับให้หัวหน้าคณะเจรจาหารือแก้ไขปัญหทางเทคนิคที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ทำการตรวจสอบเอกสารทางนิตินับเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่การลงนาม
ผลงานที่ได้บรรลุได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ11ประเทศสมาชิก TPPเพื่อผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การสร้างงานทำ การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน สนับสนุนการผลักดันการแลกเปลี่ยนทางการค้าและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่างๆในภูมิภาค เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพเอเปกและญี่ปุ่นได้เป็นประธานร่วมในการประชุมระดับรัฐมนตรี โดยได้มีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของการประชุมดังกล่าว
11ประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลง CPTPPประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์และเวียดนาม.