 ภาพการประชุม |
เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว ท้องถิ่นต่างๆ ได้เห็นพ้องที่ต้องค้ำประกันความปลอดภัยสูงสุดให้แก่นักท่องเที่ยวผ่านมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ เตรียมโครงสร้างพื้นฐานและจัดการอบรมป้องกันการแพร่ระบาด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปรับปรุงและยกระดับคุณภาพของสถานที่ท่องเที่ยวด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ผลักดันการเชื่อมโยงทัวร์และเส้นทางการท่องเที่ยวให้เข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนั้น สถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวต้องแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นจุดเด่น น่าสนใจ น่าตื่นเต้น ปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลและมีความคิดสร้างสรรค์โดยเน้นถึงความต้องการของนักท่องเที่ยว นาย เลแทงฟอง รองประธานสมาพันธ์การท่องเที่ยวเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงย้ำว่า
“ในครั้งนี้ มีพลังที่เข้มแข็งมากขึ้น มีความมุ่งมั่นและมีเนื้อหามากขึ้น เราต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างความร่วมมือกระตุ้นการท่องเที่ยว และร่วมมือกับภูมิภาคสำคัญๆ เช่น ร่วมกับนครโฮจิมินห์ หรือเขตตะวันออกเฉียงใต้และภาคใต้ตอนกลางเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวในยุคชีวิตวิถีใหม่ เราได้ร่วมมือกับ 13 จังหวัดลงนามข้อตกลงจนถึงสิ้นปี 2022 เพื่อร่วมกันฟื้นฟู นำการท่องเที่ยวในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงฟื้นฟูให้อยู่ระดับเดียวกับปี 2019”
ในการสรุปการประชุม ผู้บริหารของสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว 13 แห่งในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการเชื่อมโยง ร่วมมือและฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยเนื้อหามากมาย เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการในระยะสั้น สถานการณ์การดำเนินงานรายไตรมาส ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มและความต้องการของตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ จังหวัดและนครต่างๆ ในภูมิภาคจะคัดเลือกผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเฉพาะเพื่อนำมาเชื่อมโยง ร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยว การขนส่ง ที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น.