เจ้าหน้าที่และนักข่าวของวีโอวี 5 เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในโอกาสฉลองครบรอบ 72 ปีวันก่อตั้งวีโอวี |
ในสัปดาห์นี้ ส่วนกระจายเสียงการต่างประเทศหรือวีโอวี 5 ได้รับอีเมล์และจดหมายจากผู้ฟัง 42 ประเทศและดินแดน รวม 290 ฉบับ คุณผู้ฟังจากเยอรมนีและออสเตลีย โดยคุณ Heinz Haring จากออสเตลียได้เขียนว่า “ขออวยพรวันก่อตั้งวีโอวี ผมฟังรายการของวีโอวีในตลอด 32 ปีที่ผ่านมา ในตอนแรก ผมฟังรายการภาคภาษาอังกฤษและปัจจุบันผมฟังรายการภาคภาษาเยอรมันด้วย ผมไม่รู้จักผู้จัดทำรายการของวีโอวี แต่ผ่านรายการต่างๆ ผมรู้สึกถึงความเป็นมิตรที่ยาวนาน นี่คือวิธีการเพื่อสร้างสรรค์สัมพันธไมตรีระหว่างเรา”
ในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีวันก่อตั้งอาเซียน คุณ Eddy Setiawan ได้ส่งอีเมล์ถึงผู้จัดทำรายการภาคภาษาอินโดนีเซียโดยบอกว่า ให้ความสนใจถึงรายการพิเศษในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีวันก่อตั้งอาเซียน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของเวียดนามต่อประชาคมอาเซียน รายการเพลงก็น่าสนใจมาก
คุณ มาลิวง วงคำ ได้ส่งอีเมล์ถึงผู้จัดทำรายการภาคภาษาลาว โดยเขียนว่า “ขอบคุณรายการภาคภาษาลาวของวีโอวีที่ได้แนะนำให้พวกเรามีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับโครงการบ้านเอื้ออาทรและโครงการเสริมจุดผ่านแดนนานาชาติเวียดนาม-ลาว”
ส่วนคุณ อานุสิทธิ์ ดวงใจ ได้ส่งคำไต่ถามและแสดงความเสียใจต่อประชาชนในจังหวัดต่างๆในภาคเหนือประเทศเวียดนามที่ประสบอุทกภัยในเวลาที่ผ่านมา
คุณ อามินตา จากแขวงสาละวัน ประเทศลาว ได้เขียนว่า “ผมได้ชมประมวลภาพที่แนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวบนเว็บไซต์ของวีโอวี ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่สนใจเดินทางไปเที่ยวเหมือนผม รายการนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความงามของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม ขอขอบคุณวีโอวีที่ได้เสนอประมวลภาพที่น่าสนใจให้แก่ผู้ชม”
หลังจากดูคลีปวีดีโอที่แนะนำเกี่ยวกับแม่ค้าหาบเร่ในเมืองเก่าฮอยอัน ที่แนะนำคนขาย Kẹo tơ หรือ ลูกอมสายไหม คุณ เกษมทั่งทอง ได้แสดงความตื่นเต้นและบอกว่า “เหมือนขนมเบื้องผสมกับโรตีสายไหมที่เมืองไทยครับ”
ค่ะ เวียดนามและไทยมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน รวมทั้งอาหารการกิน ยังไงคุณผู้ฟังช่วยแนะนำอาหารไทยที่มีความคล้ายคลึงกับอาหารเวียดนามให้ทางผู้จัดทำรายการทราบด้วยนะคะ
ในสัปดาห์นี้ ผู้จัดทำรายการภาคภาษาไทยก็ได้รับอีเมล์จากคุณ เหงียนวันแต๋ว โดยบอกว่า “ผู้จัดทำรายการวีโอวี 5ที่เคารพ ความสามัคคีระหว่างเวียดนามกับไทยได้รับการทำนุบำรุงและกระชับให้แน่นแฟ้นมากขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก พร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามในระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม ในแถลงการณ์ร่วม นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้แสดงความยินดีต่อการพัฒนาของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา อีกทั้งย้ำถึงคำมั่นและความมุ่งมั่นพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีบนพื้นฐานการให้ความเคารพและความเข้าใจระหว่างกันเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย
วันที่ 19 สิงหาคมซึ่งตรงกับการปฏิวัติสิงหาคม นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับตัวแทนชมรมชาวเวียดนามในภาคอีสานประเทศไทย ณ เขตอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ โดยชื่นชมชมรมชาวเวียดนามในประเทศไทย รวมทั้งในภาคอีสานที่ได้ช่วยเหลือจุนเจือกัน มีนักธุรกิจหลายคนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างฐานะ ลูกหลานชาวเวียดนามหลายคนได้ทำงานในสำนักงานของรัฐ นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ว่า ในอนาคตจะมีลูกหลานชาวเวียดนามเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วย ในโอกาสนี้ ท่าน เหงียนซวนฟุก ได้มอบทุนการศึกษา 5 ทุนให้แก่ลูกหลานชาวเวียดนาม มอบเงิน 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐให้แก่อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ หนังสือ 700 เล่ม ภาพประธานโฮจิมินห์ที่กำลังนำร้องเพลงแห่งความสามัคคี และมอบหนังสือชมเชยให้แก่นาย กาววันซาน ตลอดจนของขวัญให้แก่ผู้ที่มีส่วนร่วมต่อภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติและสร้างสรรค์ประเทศ ผมรู้สึกมีความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี ผมได้ส่งภาพถ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมนี้มาให้ด้วย”
|
ทางผู้จัดทำรายการขอขอบคุณข้อมูลของคุณ เหงียนวันแต๋ว การเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้รับความคาดหวังว่า จะทำให้ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทยพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่การพัฒนาของอาเซียน