(VOVworld) - รัฐจะอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ให้สถานประกอบการประกอบธุรกิจ นี่คือคำยืนยันของนาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีในการพบปะกับผู้ประกอบการ ณ นครโฮจิมินห์เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาและเป็นเนื้อหาสำคัญของมติ 35 เกี่ยวกับการสนับสนุนสถานประกอบการพัฒนาจนถึงปี 2020
มติ 35 ของรัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่า จนถึงปี 2020 เวียดนามจะมีสถานประกอบการอย่างน้อย 1 ล้านแห่งที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ต้องปฏิบัติมาตรการต่างๆและอันดับแรกคือการปฏิรูประเบียบราชการเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่ผู้ประกอบการที่เกิดใหม่และทำการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ คํ้าประกันสิทธิการประกอบธุรกิจและเข้าถึงแหล่งพลังต่างๆอย่างเสมอภาค ลดค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจตลอดจนปกป้องสิทธิผลประโยชน์อันชอบธรรมของผู้ประกอบการ โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ นับเป็นครั้งแรกที่มติของรัฐบาลได้ถือผู้ประกอบการภาคเอกชนเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจและรัฐบาลกำชับให้ต้องวางแผนตรวจสอบและตรวจบัญชีสถานประกอบการเป็นประจำทุกปีอย่างเปิดเผยเพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิบัติงานอย่างซํ้าซ้อน นาง เหงวียนถิกุ๊ก สมาชิกสมาคมที่ปรึกษาด้านภาษีเวียดนามได้กล่าวว่า “ปัจจุบัน หน่วยงานจัดเก็บภาษีได้ทำการปฏิรูปในด้านต่างๆ โดยเฉพาะได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อลดเวลาทำระเบียบด้านภาษี แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยงานจัดเก็บภาษีต้องมีมาตรการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีทั้งทักษะความสามารถด้านวิชาชีพ มีคุณธรรมและจรรยาบรรณ ดิฉันเชื่อมั่นว่า บรรดาผู้ประกอบการจะให้การสนับสนุนการปรับปรุงนโยบายของรัฐ รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิบัติงานของหน่วยงานจัดเก็บภาษีและศุลกากร”
เพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการอย่างทันการณ์ รัฐบาลได้กำชับให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการวิจัยและเสนอให้ปรับลดภาษีเงินได้ส่วนบุคคลร้อยละ 50ในบางรายการ ยื่นเสนอร่างมติเกี่ยวกับการแก้ไขอุปสรรคด้านภาษีแก่สถานประกอบการให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติในปี 2016 แก้ไขปัญหาการชำระหนี้ล่าช้าของสถานประกอบการที่ประสบอุปสรรค ตลอดจนวิจัยและเสนอให้ปรับลดภาษีเงินได้ให้แก่สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมและปรับปรุงระเบียบราชการให้สอดคล้องกับการผสมผสาน
ซึ่งในการพบปะกับผู้ประกอบการ ณ นครโฮจิมินห์เมื่อเร็วๆนี้ นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีได้ชี้ชัดว่า สถานประกอบการทุกแห่ง ยกเว้นสถานประกอบการด้านความมั่นคงและกลาโหมสามารถเข้าถึงแหล่งพลังต่างๆ เช่น เงินทุน ทรัพยากรที่ดิน ตลาดและโอกาสการประกอบธุรกิจอย่างเสมอภาค รัฐจะปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมและสิทธิการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการตามกฎหมาย อีกทั้งคํ้าประกันการปฏิบัตินโยบายต่างๆในระยะยาวเพื่อให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการลงทุนประกอบธุรกิจในเวียดนาม ส่วนรัฐบาลจะวางนโยบายเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการลดค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ เช่น มีนโยบายให้สิทธิพิเศษแก่สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในการเข้าร่วมห่วงโซ่การผลิต การพัฒนาตลาดการจำหน่าย ส่งเสริมการพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมสำหรับสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้จะช่วยสร้างกรอบทางนิตินัยที่เอื้อให้แก่สถานประกอบการเวียดนามพัฒนาอย่างเต็มที่.