หน่วยงานการเกษตรเวียดนามฟันฝ่าความท้าทายเพื่อการขยายตัว

Minh Long
Chia sẻ
(VOVworld) - ในปี 2017 หน่วยงานการเกษตรจะต้องพยายามมากขึ้นเพื่อฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆ เช่น ตลาดส่งออก การรักษาความปลอดภัยด้านอาหาร โดยเฉพาะการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่นับวันมีความผันผวนมากขึ้นเพื่อสามารถธำรงอัตราการขยายตัวในหลายปีที่ผ่านมา

(VOVworld) - ในปี 2017 หน่วยงานการเกษตรจะต้องพยายามมากขึ้นเพื่อฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆ เช่น ตลาดส่งออก การรักษาความปลอดภัยด้านอาหาร โดยเฉพาะการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่นับวันมีความผันผวนมากขึ้นเพื่อสามารถธำรงอัตราการขยายตัวในหลายปีที่ผ่านมา

หน่วยงานการเกษตรเวียดนามฟันฝ่าความท้าทายเพื่อการขยายตัว - ảnh 1
ปัญหาภัยแล้งส่งผลกระทบต่อการผลิตเกษตรในภาคกลางตอนใต้

ในปี 2016 เวียดนามต้องเผชิญกับอากาศหนาวจัดรุนแรงในภาคเหนือ ปัญหาภัยแล้งและนํ้าทะเลซึมในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขง เขตที่ราบสูงเตยเงวียนและภาคกลางตอนใต้ โดยเฉพาะปัญหาปลาตายจำนวนมากใน 4 จังหวัดภาคกลางเวียดนามและปัญหานํ้าท่วมในช่วงปลายปี 2016 ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักและส่งผลกระทบในทางลบต่อการผลิตเกษตรเพื่อการส่งออก แต่อย่างไรก็ดี หน่วยงานการเกษตรเวียดนามยังคงบรรลุอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 1.36 มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรอยู่ที่ 3 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงเป็นประวัติกาล ซึ่งในนั้น มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ผักผลไม้ สัตว์นํ้าและสัตว์เลี้ยงอยู่ในระดับสูง
ต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและซับซ้อน รวมถึงผลกระทบอย่างหนักจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะพายุ นํ้าท่วม ภัยแล้งและปัญหานํ้าทะเลซึมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานการเกษตรได้วางแนวทางพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนในเชิงรุก โดยเน้นผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออกและสอดแทรกมาตรการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในการผลิต นาย ดั่งกิมเซิน อดีตหัวหน้าสถาบันนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรและชนบทเวียดนามได้เผยว่า“ต้องวางแผนการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั้งในระยะกลาง ระยะยาวและในทุกๆปี พร้อมทั้งต้องเผยแพร่ให้เกษตรกร ผู้ประกอบการและทางการท้องถิ่นมีความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบและมาตรากรรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”
ในปี 2016 ภัยธรรมชาติได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อการผลิตเกษตร โดยเฉพาะการเพาะปลูกและทำให้การขยายตัวในด้านนี้ชะลอตัวใน 6 เดือนแรกของปี 2016 ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้พยากรณ์ว่า ในปี 2017 หน่วยงานการเกษตรจะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติใหม่ ดังนั้นการเป็นฝ่ายรุกในการพยากรณ์ภัยธรรมชาติจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นาย เจิ่นกวางหว่าย รองอธิบดีทบวงชลประทานได้เผยว่า“ก่อนอื่น ต้องเป็นฝ่ายรุกในการพยากรณ์ภัยธรรมชาติอย่างถูกต้องและทันการณ์ ส่วนทางการทุกระดับและประชาชนก็ต้องเป็นฝ่ายรุกในการชี้นำ รับมือและแก้ไขผลเสียหายจากภัยพิบัติในท้องถิ่น ส่วนในระยะยาวต้องวางแผนและมาตรการรับมือกับภัยธรรมชาติ”
ในปี 2017 หน่วยงานการเกษตรพยายามยกระดับประสิทธิภาพของการปรับปรุงโครงสร้างการเกษตรควบคู่กับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ นาย เหงวียนซวนเกื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้เผยว่า เพื่อธำรงอัตราการขยายตัว หน่วยงานการเกษตรจะต้องเน้นปรับปรุงโครงสร้างการเกษตรตามแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับชาติ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ 10 รายการที่มีมูลค่าการส่งออก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป พัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับจังหวัดและสินค้าเฉพาะถิ่น โดยเฉพาะต้องให้ความสนใจต่อการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
“ในการวางแผนการผลิต ต้องเลือกผลิตภัณฑ์และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติในท้องถิ่น อีกทั้งต้องวางแผนการผลิตเกษตรที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ในสภาวการณ์ที่หน่วยงานการเกษตรต้องรับมือกับอุปสรรค์และความท้าทายต่างๆอย่างต่อเนื่อง ในปี 2017 หน่วยงานการเกษตรตั้งเป้าหมายว่า จะพยายามบรรลุอัตราการขยายตัวตั้งแต่ร้อยละ 2.5 – 2.8 เพื่อมีส่วนร่วมต่อจีดีพีของทั่วประเทศและสร้างพื้นฐานให้แก่การปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและแผนพัฒนาการเกษตรระยะปี 2016 – 2020 ให้ประสบความสำเร็จ.

Komentar