 การปลูกข้าวของบริษัทหลกเจ่ย |
เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมีพื้นที่กว่า 40,000 กิโลเมตรถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำและพื้นที่ทำเกษตรที่สำคัญของประเทศโดยเฉพาะมีสินค้าเฉพาะถิ่นที่มีชื่อเสียงต่างๆในเวลาที่ผ่านมาสินค้าเฉพาะถิ่นของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงได้รับการส่งเสริมให้สร้างเครื่องหมายการค้าในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ อย่างเช่นเมื่อเร็วๆนี้สถาบันข้าวของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงและเครือบริษัทหลกเจ่ยได้ลงนามในสัญญาร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ช่วงปี 2020-2025 เพื่อวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าวและเครื่องหมายการค้าเวียดนามอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาสถานะการเป็นประเทศปลูกข้าวที่อร่อยที่สุดในโลก ดร. เจ่นหงอกแถก หัวหน้าสถาบันฯ เผยว่า “ทางสถาบันฯและเครือบริษัทฯได้มีความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่รอบด้านและยาวนานเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมข้าวเวียดนามให้พัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเน้นเลือกพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดีเ การมอบผลิตภัณฑ์หลังการวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ การฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น เพื่อเป็นฝ่ายรุกในการรับมือปัญหาภัยแล้งและศัตรูพืช”
ถึงแม้ได้ประสบผลที่น่ายินดีต่างๆแต่การสร้างสรรค์และพัฒนาเครื่องหมายการค้าให้แก่สินค้าเฉพาะถิ่นของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงหรือเครื่องหมายการค้าของชุมชนยังประสบอุปสรรคนานัปการ ปัจจุบันนี้ท้องถิ่นต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงได้ผลักดันการพัฒนารูปแบบ“หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือ OCOPเพื่อสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าและเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่น โดยที่จังหวัดซอกจัง ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OCOP ทางจังหวัดยังเน้นถึงการส่งเสริมระบบบริหารการตรวจสอบการประเมินและการสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้า นาย หวอวันเชียว ผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์จังหวัดซอกจังเผยว่าจุดเด่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OCOPคือพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเครื่องหมายการค้าที่ผู้บริโภคในทั่วประเทศและโลกรู้จัก "เราจะเลือกสถานที่จัดตั้งศูนย์ OCOP ของจังหวัดฯ เพื่อประชาสัมพันธ์แนะนำสินค้าและเชื่อมโยงการค้าระหว่างจังหวัดซอกจังกับท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ สร้างสรรค์ตลาดอีคอมเมิร์ซผลักดันการพัฒนาการค้าอิเล็กทรอนิกส์ นำสินค้าเฉพาะถิ่นของจังหวัดซอกจัง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ OCOPเข้าในระบบจำหน่ายสินค้าของจังหวัดและนครต่างๆทั่วประเทศและตลาดโลก”
 สินค้า OCOP ในงานนิทรรศการ |
นาย ฝ่ามเทียนเหงีย ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดด่งท้าปแสดงความคิดเห็นว่าเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการให้แก่จังหวัดฯ ไม่ควรเน้นแค่การตอบสนองความต้องการภายในประเทศเท่านั้นหากยังต้องมุ่งสู่ห่วงโซ่มูลค่าทั่วโลกด้วย พร้อมทั้งยืนยันเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีและดิจิทัลปัจจุบันต้องปฏิบัติมาตรการต่าง ๆ อย่างพร้อมเพียงรวมทั้งการปรับปรุงกลไกนโยบายและระบบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ที่สุดเพื่อสร้างสรรค์และค้ำประกันเครื่องหมายการค้า เพราะนี่เป็นทรัพย์สินของทั้งสถานประกอบการ ชุมชนและท้องถิ่นในจังหวัดซึ่งต้องสร้างความเชื่อมโยงอย่างกลมกลืนระหว่างผลประโยชน์ของผู้ผลิตและผู้ประกอบการกับผลประโยชน์ของชุมชน หมู่คณะและท้องถิ่นถึงจะสามารถพัฒนาเครื่องหมายการค้าของสินค้าเฉพาะถิ่นได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน ตลอดจนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างการสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าให้แก่สินค้าเฉพาะถิ่นกับการกำหนดแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์ OCOP ในท้องถิ่นเพื่อช่วยให้ท้องถิ่นยกระดับเครื่องหมายการค้าและมูลค่าให้แก่สินค้าหลักๆได้ "ในเวลาที่จะถึงจังหวัดด่งทาปจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ รณรงค์และจัดขบวนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพมากขึ้น สิ่งที่น่าสนใจคือนอกจากพัฒนาผลิตภัณฑ์ OCOP แล้ว ทางจังหวัดจะผลักดันการรับรองสินค้าที่ได้มาตรฐานภายในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนให้ความสนใจถึงการพัฒนาการค้ามากขึ้น"
จากความได้เปรียบคือสัตว์น้ำ ผลไม้และข้าว ท้องถิ่นต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงกำลังเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ OCOP เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาเครื่องหมายการค้าซึ่งในปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์OCOPกว่า 500 รายการในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงที่ได้รับการรับรองซึ่งในนั้นมีผลิตภัณฑ์หลายรายการสามารถมีส่วนแบ่งในตลาดภายในประเทศและเจาะตลาดต่างประเทศได้.