นาย เจิ่นเหวียดแอง ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนนำเข้าและส่งออกนามท้ายเซิน

ปี 2022 เศรษฐกิจโลกและเวียดนามกำลังค่อยๆฟื้นฟูด้วยสัญญาณที่น่ายินดีต่างๆจากตลาด ซึ่งคาดว่า จะเปิดโอกาสให้แก่การขยายตัวของสถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจในการผลิต นาย เจิ่นเหวียดแอง ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนนำเข้าและส่งออกนามท้ายเซินกล่าวว่า ปีนี้จะเป็นโอกาสให้บริษัทฯจัดทำแผนการฟื้นฟูและเร่งพัฒนา โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะมีการขยายตัวสูงกว่าปีก่อนๆ โดยปรกติเฉลี่ยแต่ละปีบริษัทฯขยายตัวประมาณร้อยละ 10 แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 10 ทำให้ลดลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 7-8 เท่านั้น ดังนั้น ทางบริษัทต้องมียุทธศาสตร์และแผนการเพื่อขยายตัวมากขึ้นเพื่อเพิ่มชื่อเสียงต่อธนาคาร หุ้นส่วนจัดสรรวัตถุดิบและนักลงทุนต่างชาติ          “เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของปี 2022 เราต้องพยายามถึง 100-200 เปอร์เซ็นต์และต้องตั้งใจ การที่จะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวถึงร้อยละ 50 คือความพยายามสูงสุดของบริษัทฯ แต่ถ้าทำไม่ได้ บริษัทของเราก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้เพราะว่า ธนาคารจะยกเลิกสินเชื่อ หุ้นส่วนจะไม่ส่งวัตถุดิบ ซึ่งจะทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทเล็กส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของแรงงาน”

ส่วนนาง ลิวถิแทงเหมา ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนลงทุนและก่อสร้างฟุ๊กคางได้แสดงความยินดีต่อการที่รัฐบาลและท้องถิ่นสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้เป็นอย่างดี โดยเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้เสร็จสิ้นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานตามรูปแบบประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูหรา โดยเน้นถึงความรับผิดชอบทางสังคม          “เราปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลเพื่อสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืนท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ถือสุขภาพของชุมชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา ค้ำประกันให้การผลิตและประกอบธุรกิจสามารถพัฒนาและมีส่วนร่วมต่อผลประโยชน์ต่างๆ พร้อมทั้งเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน มียุทธศาสตร์พัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อช่วยให้สถานประกอบการพัฒนาแต่ก็ให้ความสนใจถึงความรับผิดชอบทางสังคม พัฒนาเศรษฐกิจพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม”

นาง ลิวถิแทงเหมา ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนลงทุนและก่อสร้างฟุ๊กคาง

ในปี 2022 สถานประกอบการหลายแห่งได้ตั้งความหวังว่า การท่องเที่ยวเวียดนามจะฟื้นฟูได้ประมาณร้อยละ 50 ของปี 2019 นาย เหงียนวันเบียน ประธานคณะกรรมการผู้บริหารของบริษัท NBT Holding เผยว่า ทางบริษัทฯเพิ่งเปิดบริษัทในเครือคือ Bao Tin Travel เพื่อใช้โอกาสจากการฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจัดทัวร์ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและนักลงทุนต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวเวียดนามและเจาะตลาดอีกด้วย          “เรื่องที่ทางบริษัทให้ความสนใจมากที่สุดในปัจจุบันคือต้องควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เป็นอย่างดีเพื่อไม่ปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่เพราะจะทำให้ประชาชนจะไม่ออกไปเที่ยว นอกจากนั้น เราก็ขอให้ทางการปกครองและสำนักงานที่เกี่ยวข้องมีนโยบายที่ถูกต้องในการควบคุมการแพร่ระบาดและมีมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ฟื้นฟูโดยเร็วเพื่อมีส่วนร่วมต่อกระบวนการฟื้นฟูพัฒนาของเศรษฐกิจภาคต่างๆในเวลาที่จะถึง”