ศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2015

Hồng Vân-VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) – คาดว่า ในปี 2015 เศรษฐกิจเวียดนามจะพัฒนาอย่างมั่นคงต่อไปและอัตราการฟื้นตัวจะสูงกว่าปี 2014 โดยอัตราการขยายตัวจีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ 6.2 และบรรยากาศการประกอบธุรกิจจะอำนวยความสะดวกมากขึ้นให้แก่นักลงทุน
(VOVworld) – คาดว่า ในปี 2015 เศรษฐกิจเวียดนามจะพัฒนาอย่างมั่นคงต่อไปและอัตราการฟื้นตัวจะสูงกว่าปี 2014 โดยอัตราการขยายตัวจีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ 6.2 และบรรยากาศการประกอบธุรกิจจะอำนวยความสะดวกมากขึ้นให้แก่นักลงทุน
ศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2015  - ảnh 1
คาดว่าปี2015เศรษฐกิจเวียดนามจะพัฒนามั่นคงต่อไป

ปี 2015 เศรษฐกิจเวียดนามจะมีความสะดวกหลายอย่างเพื่อพัฒนาโดยก่อนอื่นคือความตั้งใจของรัฐบาลในการพยายามบรรลุเป้าหมายการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.2 รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายหลักและเป็นรูปธรรมที่ต้องปฏิบัติในด้านต่างๆของเศรษฐกิจ เช่นการเน้นบริหารเพื่อค้ำประกันความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน อำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาการผลิตและการประกอบธุรกิจ ผลักดันการปฏิบัติก้าวกระโดดยุทธศาสตร์ ยกระดับผลผลิต ประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีก็ได้ยืนยันว่า เป้าหมายการลดอัตราหนี้เสียลงเหลือเพียงร้อยละ 3 ในปี 2015 ซึ่งเป็นอัตราที่ปลอดภัยสำหรับระบบธนาคารนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติเพราะจนถึงปลายปี 2014 อัตราหนี้เสียได้ลดลงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3.7-4.2 เมื่อเทียบกับร้อยละ 17 ของเดือนกันยายนปี 2012 นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้ชี้ชัดว่ารัฐบาลจะสั่งให้ผลักดันการแก้ไขปัญหาหนี้เสียควบคู่กับการปรับปรุงโครงสร้างขององค์การสินเชื่อ เน้นปฏิบัติหน้าที่และมาตรการหลัก รวมทั้งการเพิ่มความสมบูรณ์ของกรอบทางนิตินัยต่อไปเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การแก้ไขปัญหาหนี้เสีย โดยเฉพาะข้อกำหนดเกี่ยวกับการซื้อ ขายหนี้และทรัพย์สินค้ำประกัน ความรับผิดชอบของผู้กู้เงินและสิทธิของเจ้าหนี้ เพิ่มกลไกการปฏิบัติหน้าที่ เพิ่มความสามารถด้านการเงิน ยกระดับขีดความสามารถเพื่อส่งเสริมบทบาทของบริษัทบริหารทรัพย์สินขององค์การสินเชื่อต่างๆหรือวีเอเอ็มซีในการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย รวมทั้งการซื้อขายหนี้อย่างเปิดเผยและโปร่งใสตามกลไกตลาด ส่งเสริมให้นักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศซื้อขายหนี้เสียและทรัพย์สินที่นำมาค้ำประกันกับธนาคาร”
คาดว่า ในปี 2015 จำนวนสถานประกอบการที่ได้รับการจัดตั้งจะเพิ่มขึ้นต่อไปและปริมาณการบริโภคของตลาดได้รับการปรับปรุงซึ่งคือสัญญาณที่น่ายินดี บนพื้นฐานนั้น เวียดนามจะมีนโยบายสร้างความไว้วางใจต่อสถานประกอบการต่อไป สร้างเงื่อนไขที่สะดวกที่ดีที่สุดให้แก่สถานประกอบการให้เข้าร่วมตลาด นาย หว่างดังกวาง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดกว๋างบิ่ง สมาชิกคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของรัฐสภาสมัยที่ 13 ได้แสดงความเห็นว่าจากการกำหนดเป้าหมายเน้นแก้ไขอุปสรรค์การผลิตและการประกอบธุรกิจให้แก่สถานประกอบการคือเนื้อหาปฏิบัติการของปี 2015 ก่อนอื่น รัฐบาลต้องตรวจสอบและประเมินผลกระทบของระบบนโยบายในการแก้ไขอุปสรรค์ให้แก่สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม เช่น นโยบายยกเว้น ลด ขยายระยะเวลาชำระภาษีและดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อเพิ่มเติมและปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องกับระยะต่อไป โดยเฉพาะต้องเพิ่มความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติเพื่อค้ำประกันสถานประกอบการได้รับประโยชน์จากนโยบายอย่างแท้จริง ประเด็นที่ 2 คือ ต้องมีนโยบายผลักดันการกระตุ้นการอุปโภค ส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน ประเด็นที่ 3 คือ รัฐบาลต้องผลักดันกระบวนการเบิกจ่ายเงินของวงเงินช่วยเหลือให้แก่สถานประกอบการ”
ความพยายามในการสร้างก้าวกระโดดการปฏิรูประเบียบราชการคือพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ภารกิจการปฏิรูประเบียบการและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามในปี 2015 นาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้แสดงความเห็นว่าองค์การเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ เช่นธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟและฟอรั่มเศรษฐกิจโลกต่างแสดงความเห็นว่า ภารกิจการปฏิรูประเบียบการเศรษฐกิจในเวียดนามกำลังดำเนินไปถูกทิศทาง จากผลการตรวจสอบของหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือวีซีซีไอและรายงานของสมาพันธ์สถานประกอบการในทั่วประเทศปรากฎว่า ความเชื่อมั่นต่อบรรยากาศการประกอบธุรกิจได้เพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เผยว่า จะรักษาและขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจ”
โดยเฉพาะในปี 2015 เป็นช่วงเวลาที่เวียดนามจะเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ๆกับหุ้นส่วนต่างๆซึ่งเป็นเงื่อนไขและปัจจัยใหม่เพื่อผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึก เป็นโอกาสใหม่ให้แก่สถานประกอบการเวียดนาม โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการดึงดูดแหล่งเงินลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนการขยายตลาดส่งออกซึ่งสิ่งนี้จะเอื้ออำนวยให้แก่การผลักดันการขยายตัว เมื่อประเมินเกี่ยวกับโอกาสนี้ ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้เผยว่าในภาพรวมแล้วจากแนวโน้มการเสร็จสิ้นข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ 14 ฉบับในเวลาที่จะถึง การประกอบธุรกิจในเวียดนามจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในขั้นพื้นฐาน มีความสะดวกมากขึ้นและขีดความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้น เวียดนามจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งของโครงข่ายเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจที่กว้างขวางโดยมีหุ้นส่วน 55 รายซึ่งในนั้นมี 15 ประเทศสมาชิกของกลุ่มจี 20 ซึ่งสิ่งนี้จะเปิดโอกาสมากมายให้แก่สถานประกอบการที่ลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนามสามารถส่งออกสินค้าและบริการไปยังประเทศหุ้นส่วนของเวียดนามด้วยอัตราภาษีส่งออกต่ำและมีการยกเลิกการกีดกันทางการค้าในขณะที่เวียดนามจะกลายเป็นประตูสำคัญเพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงตลาดของอาเซียนและขยายตลาดไปยังอียูและสหรัฐด้วยระเบียบการให้สิทธิพิเศษตามข้อตกลงเอฟทีเอ”
ปี 2015 เวียดนามพยายามบรรลุอัตราการขยายตัวจีดีพีให้อยู่ที่ร้อยละ 6.2 นอกจากความสะดวกในขั้นพื้นฐานแล้ว ในปี 2015 เศรษฐกิจเวียดนามยังมีปัญหาที่คั่งค้างอยู่ที่ต้องให้ความสนใจ โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะ การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ การปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจ จากความสะดวกที่กำลังมีอยู่พร้อมกับความตั้งใจอันแน่วแน่ของรัฐบาลและความรับมือของประชาชน เศรษฐกิจเวียดนามจะมีศักยภาพที่น่ายินดีและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาในทุกด้านของประเทศ./.

Komentar