(VOVworld) –  ในปลายปีนี้ เวียดนามจะรำลึกครบรอบ๒๕ปีการประกาศใช้กฏหมายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายเพื่อทบทวนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDI พร้อมทั้งวางมาตรการปรับปรุงบรรยากาศให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่

การผลิตอุปกรณ์การแพทย์(Photo:Internet)

(VOVworld) –  ในหลายปีที่ผ่านมา ผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDIลดลงโดยเมื่อปี๒๐๐๙ เงินทุนFDIอยู่ที่๒หมื่น๓พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ๓๐ของปี๒๐๐๘และปีต่อๆไปก็มีแนวโน้มลดลงซึ่งใน๑๐เดือนที่ผ่านมา เงินทุนFDIอยู่ที่เกือบ๑หมื่น๕ร้อยล้านเหรียญสหรัฐซึ่งรวมทั้งเงินทุนใหม่และเงินทุนเพิ่มเติม ลดลงเกือบร้อยละ๒๕เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๑ นอกจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ทำให้เงินทุนFDIลดลงแล้ว ปัญหาอื่นๆก็ส่งผลกระทบเช่นกัน เช่น จำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ลดลง อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ปฏิบัติมาระยหนึ่ง เวียดนามมีแนวทางยกระดับคุณภาพของเงินทุนFDI เลือกโครงการที่มีประสิทธิภาพ ลดโครงการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามให้ความสำคัญต่อการดึงดูดโครงการของเครือบริษัทข้ามชาติ โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นสูง มีการบริหารที่ทันสมัยและแรงงานที่มีคุณภาพ โดยเน้นนักลงทุนจากสหรัฐ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และสหภาพยุโรปหรือEUซึ่งเป็นประเทศคู่เจรจาที่มีศักยภาพและมีเทคโนโลยีชั้นสูง นอกจากนี้ บรรดาเครือบริษัทข้ามชาติได้มาพร้อมบริษัทลูกและการผลิตชิ้นส่วนประกอบซึ่งเป็นปัจจัยเพื่อผลิตสินค้าป้อนให้แก่ตลาดโลกและก็เป็นเป้าหมายของเวียดนาม 
ปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนของเครือบริษัทข้ามชาติ รวมทั้งบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ๕๐๐บริษัทชั้นนำของโลกซึ่งเครือบริษัทเหล่านี้กำลังลงทุนใน๒๑๔โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียน๑หมื่น๑พัน๙ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งเงินทุนปฏิบัติประมาณ๘พัน๕ร้อย๙สิบล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบัน เงินทุนของเครือบริษัทเหล่านี้คิดเป็นร้อยละ๒๐ของเงินทุนFDIทั้งหมดของเวียดนามซึ่งทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายและจุดเปลี่ยนสำคัญของโครงสร้างเงินทุน FDIในเวียดนาม นายPhan Hữu Tháng ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจแห่งกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้กล่าวว่า “นับตั้งแต่เปิดประเทศเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เป้าหมายของเวียดนามคือมุ่งไปยังเป้าหมายที่มีศักยภาพทางการเงิน เทคโนโลยีและตลาด สามารถช่วยเวียดนามเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อภารกิจการพัฒนาประเทศซึ่งเป็นแนวโน้มในตลอด๒๕ปีที่ผ่านมาและยิ่งดึงดูดเงินทุน ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องของเป้าหมายนี้”   อย่างไรก็ดี จำนวนเครือบริษัทข้ามชาติที่ลงทุนในเวียดนามยังไม่มากและจำนวนโครงการใหญ่ๆที่ปฏิบัติควบคู่กับการถ่ายทอดเทคโนโลยียังอยู่ในระดับต่ำซึ่งบรรดานักวิชาการอธิบายว่า นอกจากความยากลำบากทางเศรษฐกิจแล้ว เวียดนามต้องปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและนโยบายที่เกี่ยวข้องให้ดีขึ้น วางระเบียบการที่โปร่งใส มีนโยบายและกฏหมายที่ชัดเจน มีเสถียรภาพ และยาวนาน นักกฏหมาย Phan Hồng Bách กล่าวว่า “เมื่อเข้ามาลงทุนในเวียดนาม บรรดานักลงทุนควรทำระเบียบทางนิตินัยให้แล้วเสร็จเพื่อค้ำประกันความปลอดภัยสำหรับแหล่งเงินทุนของพวกเขา”   ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามให้ความสนใจต่อโครงการที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ เช่น อุตสาหกรรมปีโตรเลี่ยม การผลิตรถยนต์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ ในกว่า๑๐ปีที่ผ่านมา ได้มีโครงการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจากเครือบริษัทชั้นนำของโลก เช่น ผลิตและประกอบติดตั้งchipset  ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐ ผลิตเครื่องยนต์ของญี่ปุ่น และโครงการอิเล็กทรอนิกส์โทรคมนาคมของสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อใช้เงินทุนFDIอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการยกระดับประสิทธิภาพการบริหารแหล่งเงินทุนFDIในเวียดนามโดยมีเป้าหมายปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนตามแนวทางพัฒนาภาคเศรษฐกิจที่มีเงินทุนFDIตามแผนการพัฒนาของภาค เขตและท้องถิ่นที่ได้วางไว้ แก้ไขปัญหาการแบ่งระดับการบริหารการลงทุนพร้อมทั้งวางระเบียบการใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างทันการณ์เพื่อดึงดูดโครงการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ โครงการที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจเวียดนาม./.