นครโฮจิมินห์ส่งเสริมการเชื่อมโยงการปฏิรูปในเชิงลึก และปรับปรุงประสิทธิภาพของการรักษาเสถียรภาพของตลาด

Lệ Hằng+Vinh Quang + Bá Thi
Chia sẻ
(VOVWORLD) - โครงการ “รักษาเสถียรภาพตลาด” ถือเป็นโครงการที่โดดเด่นของนครโฮจิมินห์ในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างแหล่งจัดสรรสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นที่มีราคาถูกว่าท้องตลาดอย่างมั่นคง มีส่วนร่วมต่อกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของนครฯให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บนพื้นฐานผลงานที่ได้บรรลุ นครโฮจิมินห์ได้จัดทำมาตรการมากมายเพื่อขยายขอบเขตและประสิทธิผลของโครงการ โดยเน้นปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตามแนวทางของการปฏิรูปในเชิงลึก
นครโฮจิมินห์ส่งเสริมการเชื่อมโยงการปฏิรูปในเชิงลึก และปรับปรุงประสิทธิภาพของการรักษาเสถียรภาพของตลาด - ảnh 1นาย เหงียนแองดึ๊ก ผู้อำนวยการใหญ่ของสหภาพสหกรณ์การค้าโฮจิมินห์หรือ SaiGon Co.op  (SaiGon Co.op)

 

หนึ่งในผลงานที่สำคัญจากโครงการ “รักษาเสถียรภาพตลาด” ในนครโฮจิมินห์คือกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกรรมกรและผู้ที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงสินค้าที่มีราคาคงที่ได้มากขึ้น  นาง เหงียนห่งทู ในเมืองถูดึ๊ก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้ใช้แรงงานและผู้ที่มีรายได้น้อยอาศัยเป็นจำนวนมาก ได้เผยว่า ในหลายปีมานี้ ครอบครัวของเธอได้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นและอุปกรณ์การเรียนสำหรับลูกๆ จากร้านที่เข้าร่วมโครงการ“รักษาเสถียรภาพตลาด” โดยราคาขายสินค้าถูกกว่าราคาตลาดประมาณร้อยละ 5-10  ซึ่งช่วยให้ครอบครัวของเธอและครอบครัวอื่น ๆ ที่มีรายได้น้อยสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมาก นาง ทู เผยว่า

“ร้านที่เข้าร่วมโครงการมีอาทิ เช่น Vissan, Satra, Co.op Mart ซึ่งอยู่ไม่ไกลบ้าน นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวเป็นอย่างมาก และมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้า”

จนถึงสิ้นปี 2022 มีร้านค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตในนครโฮจิมินห์เข้าร่วมโครงการนี้ 11,000 แห่ง สินค้าที่มีราคาคงที่หลายรายการคิดเป็นร้อยละ 19-79 ของสินค้าในตลาด ซึ่งเพียงพอสำหรับการควบคุมราคาสินค้าในตลาด และถ้าหากเกิดสถานการณ์ขาดแคลนสินค้าและราคาตกต่ำ ก็จะมีการเพิ่มปริมาณสินค้าที่จำหน่าย ปัจจุบัน โครงการมีสินค้าที่จำเป็น 8 กลุ่ม ได้แก่ ข้าว น้ำมัน เนื้อสัตว์ ไข่ อาหารแปรรูป น้ำตาล ผักและสินค้าสำหรับการเรียนรู้และการป้องกันโควิด -19 ที่น่าสนใจคือรายได้ของโครงการเติบโตอย่างเข้มแข็ง จาก 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2002 ได้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 และทุกภาคส่วนของสังคมได้เข้าร่วมและสนับสนุนโครงการนี้

เพื่อบรรลุผลสำเร็จนี้ นอกจากความพยายามของสำนักงานภาครัฐแล้วก็ยังมีการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นของชุมชนสถานประกอบการ ซึ่งสถานประกอบการหลายแห่งได้เข้าร่วมตั้งแต่เริ่มโครงการและกำลังขยายการสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่อง นาย เหงียนแองดึ๊ก ผู้อำนวยการใหญ่ของสหภาพสหกรณ์การค้าโฮจิมินห์หรือ SaiGon Co.op  หนึ่งในหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการกล่าวว่า ปัจจุบัน  SaiGon Co.op มีปริมาณสินค้านำมาเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น 8 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงแรก โดยเฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทุกแห่งของ SaiGon Co.op ในนครโฮจิมินห์และใน 42 จังหวัดและนครต่างขายสินค้าราคาคงที่ มีรายได้คิดเป็นร้อยละ 15  และทางกลุ่มบริษัทฯยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ผลิตในการนำสินค้าราคาคงที่มาจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าของ SaiGon Co.op นาย เหงียนแองดึ๊ก กล่าวว่า

“สถานประกอบการต่าง ๆ ได้ร่วมมือกับ SaiGon Co.op เพื่อเข้าร่วมโครงการรักษาเสถียรภาพของตลาด ซึ่งเราให้การสนับสนุนสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสินค้า”

นครโฮจิมินห์ส่งเสริมการเชื่อมโยงการปฏิรูปในเชิงลึก และปรับปรุงประสิทธิภาพของการรักษาเสถียรภาพของตลาด - ảnh 2นาย ฟานวันหมาย ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์

ผู้บริหารของนครโฮจิมินห์ประเมินว่า โครงการ “รักษาเสถียรภาพตลาด” ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่สร้างสรรค์และพัฒนานครฯ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจสังคม เพื่อส่งเสริมและปรับปรุงประสิทธิภาพของโครงการอย่างต่อเนื่อง ทางนครฯได้จัดทำแผนการเพื่อเตรียมแหล่งจัดสรรและเพิ่มสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน นอกจากนั้น ทางนครฯยังผลักดันการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงพาณิชย์และส่งเสริมการดำเนินโครงการโลจิสติกส์ โดยเฉพาะ ทางนครฯได้กำหนดให้เน้นปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ผลักดันการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการปฏิรูปในเชิงลึก นาย ฟานวันหมาย ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ เผยว่า เป้าหมายคือมุ่งสู่การจัดตั้งพื้นที่เกษตรกรรมเฉพาะที่เชื่อมโยงกับการแปรรูปในเชิงลึก ในเวลาที่จะถึง ทางนครฯไม่เพียงแต่ขยายความเชื่อมโยงกับแหล่งวัตถุดิบเท่านั้น หากยังกระชับความเชื่อมโยงกับท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศในทุกขั้นตอนอีกด้วย เช่น การผลิต การแปรรูป การจำหน่าย การคมนาคมและการแลกเปลี่ยนสินค้า นาย ฟานวันหมาย ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ย้ำว่า

“เราต้องเปลี่ยนภาคการเกษตรให้เป็นเศรษฐกิจการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ มีการเชื่อมโยงระหว่างการผลิต การแปรรูปและการบริโภคกับกิจกรรมการค้าภายในประเทศและการส่งออกในเวลาที่จะถึง เราต้องเกาะติดแนวโน้มการพัฒนา แนวโน้มทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและวิธีการดำเนินงานของตลาด เช่น  การประยุกต์ใช้ความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผลิต การแปรรูปและการประยุกต์ใช้อีคอมเมิร์ซ”

ด้วยความมุ่งมั่นของผู้บริหารนครฯ การสนับสนุนของชุมชนสถานประกอบการและประชาชนทุกชั้นชน โครงการ “รักษาเสถียรภาพตลาด” ในนครโฮจิมินห์จะมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มั่นคงและยั่งยืนของศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอย่างแน่นอน.

Komentar