นครโฮจิมินห์ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

Hoàng Minh; Vĩnh Phong
Chia sẻ
(VOVWORLD) - เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ในเวลาที่ผ่านมา การดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ของนครโฮจิมินห์เป็นไปอย่างเชื่องช้า ดังนั้น ตั้งแต่ต้นปีนี้ นครโฮจิมินห์ได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในการดึงดูดเงินทุน FDI โดยเลือกโครงการที่มีความเป็นไปสูงในการปฏิบัติ ใช้เทคโนโลยีใหม่ มีมูลค่าเพิ่มสูง มีการขยายผล เชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
นครโฮจิมินห์ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ - ảnh 1ต้องผลักดันการปรับปรุงกิจการโครงสร้างพื้นฐานลงทุนภาครัฐให้มีความสมบูรณ์และผลักดันการเชื่อมโยงเขตเพื่อดึงดูดการลงทุน

ตามรายงานสถิติของสำนักงานวางแผนและการลงทุนของนครโฮจิมินห์ ตั้งแต่ปี 1988 จนถึงเดือนเมษายนปีนี้ นครโฮจิมินห์ยังคงเป็นท้องถิ่นนำหน้าของประเทศเกี่ยวกับการดึงดูดเงินลงทุนจาก 117 ประเทศและดินแดน รวม 11,220 โครงการ รวมยอดเงินลงทุนประมาณ 8 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อปีที่แล้ว  ยอดเงินลงทุน FDI ในนครโฮจิมินห์บรรลุกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเกือบร้อยละ 40  เมื่อเทียบกับปี 2021โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ นครโฮจิมินห์ได้รับเงินลงทุน FDI กว่า 979.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 23.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  เงินทุน FDI ในนครโฮจิมินห์เน้นในด้านอุตสาหกรรม การค้า ข้อมูลและการประชาสัมพันธ์ ดร. เหงียนตู๊แอง อธิบดีกรมฝ่ายทั่วไปของคณะกรรมการเศรษฐกิจส่วนกลางได้แสดงความเห็นว่า สถานประกอบการต่างประเทศยังลังเลที่จะเข้ามาลงทุนในนครโฮจิมินห์เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับอุปสรรคจากการเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลก ซึ่งจะทำให้ประเทศที่กำลังให้สิทธิพิเศษด้านภาษี ดั่งเช่นเวียดนามมีความเสียเปรียบ

 “เรากำลังให้สิทธิพิเศษแก่สถานประกอบการ FDI ในระดับสูง โดยเฉพาะ กลุ่มบริษัทใหญ่ๆ ที่ถูกเก็บภาษีต่ำกว่าร้อยละ 15 ซึ่งถ้าหากเวียดนามคงสิทธิพิเศษดังกล่าว  กลุ่มบริษัทเหล่านั้นก็จะต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในประเทศของพวกเขา ดังนั้น การให้สิทธิเศษด้านภาษีจะไม่เกิดประสิทธิผลอีกต่อไป”

ตั้งแต่ต้นปีนี้ นครโฮจิมินห์ได้มอบหมายให้สำนักงานวางแผนและการลงทุนจัดทำโครงการระดมการลงทุนของสังคมและการลงทุนจากต่างประเทศในนครฯในปี 2023 โดยนครโฮจิมินห์จะคัดเลือกอย่างรอบคอบในการดึงดูดเงินลงทุน FDI โดยถือคุณภาพ ประสิทธิภาพ เทคโนโลยีและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นมาตรฐานในการประเมิน ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีใหม่ๆ เทคโนโลยีสะอาด การบริหารที่ทันสมัย มีมูลค่าเพิ่มสูง มีการขยายผล เชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก อุตสาหกรรมที่ได้รับการเชิญชวนมาลงทุน ได้แก่ วิศวกรรมเครื่องกล อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศ พลาสติก - ยาง การแปรรูปอาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร และเศรษฐกิจดิจิทัล นอกจากนี้ นครโฮจิมินห์ยังอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวเวียดนามโพ้นทะเลเข้าร่วมการลงทุน เช่น การสนับสนุนทุนและการถือหุ้นกับองค์กร สถานประกอบการภายในประเทศ ให้สิทธิพิเศษด้านภาษีสำหรับชาวเวียดนามโพ้นทะเล และการสร้างบรรยากาศการลงทุนที่สะดวกเพื่อดึงดูดการส่งเงินกลับประเทศเพื่อเข้ากิจกรรมการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ดร. เหงียนชี้เหียว ชาวเวียดนามโพ้นทะเลในสหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน-ธนาคาร เสนอว่า ต้องมีนโยบายไม่เก็บภาษีเงินได้จากการส่งเงินกลับประเทศของชาวเวียดนามโพ้นทะเล และเพิ่มความมั่นใจให้แก่ชาวเวียดนามในต่างประเทศเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในนครโฮจิมินห์

เราต้องรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเพื่อให้ชาวเวียดนามโพ้นทะเลสามารถส่งเงินกลับเวียดนามได้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเป้าหมายส่วนตัว การบริโภค ธุรกิจ หรือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชาวเวียดนามโพ้นทะเลทราบว่า เรากำลังประสบอุปสรรคในไตรมาสแรกของปี 2023 ดังนั้น มาตรการสำหรับการส่งเงินกลับประเทศและชาวเวียดนามโพ้นทะเลต้องได้รับการส่งเสริมอย่างเข้มแข็ง”

นครโฮจิมินห์ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ - ảnh 2นาง กาวถิฟีเวิน รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการค้าและการลงทุน

สำหรับมาตรการเพื่อดึงดูดเงินลงทุน FDI แบบคัดเลือก นครโฮจิมินห์ยังคงก่อสร้างเขตนิคมอุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจจำเพาะที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ส่งเสริมการปฏิรูประเบียบราชการ การวิจัยนโยบายให้สิทธิพิเศษที่โดดเด่น การแข่งขันระดับระหว่างประเทศ อำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจเพื่อดึงดูดโครงการใหญ่ๆและเทคโนโลยีขั้นสูง นาง กาวถิฟีเวิน รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการค้าและการลงทุนหรือ ITPC แสดงความเห็นว่า นอกจากการเน้นปฏิรูประเบียบราชการ การปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนที่โปร่งใสและชัดเจน  การขยายนโยบายการลงทุน การเปลี่ยนแปลงวิธีการเข้าถึง การดึงดูดและการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนระหว่างประเทศ นครโฮจิมินห์ต้องเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อเชื่อมต่อกับพื้นที่ต่าง ๆ

“นครโฮจิมินห์ไม่สามารถพัฒนาได้โดยลำพัง เพราะนครโฮจิมินห์จะพัฒนาได้ก็ต่อเมื่อจังหวัดและนครใกล้เคียงพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน เพื่อสร้างห่วงโซ่การเชื่อมโยง นครโฮจิมินห์เป็นปัจจัยสำคัญในห่วงโซ่การเชื่อมโยงนั้น โดยร่วมมือกับจังหวัดและนครต่าง ๆ เพื่อสร้างแหล่งวัตถุดิบและห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง” 

นาย ฝ่ามฟู้เจื่อง ผู้อำนวยการบริษัทให้คำปรึกษาการประกอบธุรกิจเพื่อผสมผสานเข้ากับกระแสโลกหรือ GIBC ได้แสดงความเห็นว่า นอกจากการขยายการเชื่อมโยงระดับภูมิภาคแล้ว ITPC ได้กระชับความร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในนครโฮจิมินห์

เรามีนักลงทุนอิสระเป็นจำนวนมาก นักธุรกิจและกองทุนลงทุนที่มีความสัมพันธ์มากมายยังเป็นจุดศูนย์รวมเพื่อแลกเปลี่ยนและมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนักลงทุนอื่นๆ ศูนย์ส่งเสริมการลงทุนอาจพิจารณาเชิญหน่วยงานดังกล่าว หรือกลุ่มผู้ดึงดูดนักลงทุนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับนครฯเพื่อขยายผลข้อความนี้”

นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้นครโฮจิมินห์ดึงดูดเงินทุน FDI ในอนาคต ITPC จะยังคงส่งเสริมการขยายความเชื่อมโยงกับสำนักงานทางการทูตของประเทศอื่นๆ ตามความต้องการของด้านที่ทางนครฯให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เพื่อเชิญชวนนักลงทุน แนะนำให้นักลงทุนปฏิบัติขั้นตอนการออกใบอนุญาต ให้คำปรึกษาแก่นครฯในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนสถานประกอบการเชื่อมโยงผ่านนิทรรศการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสนับสนุน ลงทุนเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการผลิต ก่อสร้างศูนย์ส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้เป็นสำนักงานรับและรวบรวมความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรคของนักลงทุนจากหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ส่งเสริมการสนับสนุนสถานประกอบการ อีกทั้ง ทางนครฯจะทำการจัดอันดับประเมินนักลงทุนที่มีศักยภาพ ดึงดูดนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากขึ้นและเปิดพื้นที่การพัฒนาใหม่ให้แก่นครโฮจิมินห์.

Komentar