ช่วยเหลือสถานประกอบการขายปลีกฟันฝ่าอุปสรรค

Chia sẻ
(VOVworld) – ในสองปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในต้นปีนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของสถาน ประกอบการขายปลีกเนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก กำลังซื้อของตลาดภายในประเทศลดลง รวมทั้งการรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อและการล้มละลาย เป็นต้น 
(VOVworld) – ในสองปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในต้นปีนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของสถานประกอบการขายปลีกเนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก กำลังซื้อของตลาดภายในประเทศลดลง รวมทั้งการรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อและการล้มละลาย เป็นต้น  ดังนั้นภาครัฐและสมาพันธ์สถานประกอบการขายปลีกเวียดนามจังได้พยายามใช้มาตรการต่างๆเพื่อช่วยเหลือให้สถานประกอบการสามารถยืนอยู่และพัฒนาต่อไปได้

ช่วยเหลือสถานประกอบการขายปลีกฟันฝ่าอุปสรรค - ảnh 1
สถานประกอบการขายปลีกหลายแห่งล้มละลาย (Internet)

            ตามข้อมูลสถิติของกระทรวงวางแผนและการลงทุน ใน 4 เดือนแรกของปีนี้ มีสถานประกอบการกว่า 1 หมื่น 7 พันแห่งล้มละลายหรือยุติการดำเนินกิจการชั่วคราวโดยเป็นสถานประกอบการขายปลีกประมาณ 5.200 แห่ง ถึงแม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอในเดือนเมษายนจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.05 เท่านั้น ซึ่งต่ำที่สุดในรอบสองปีและส่งผลให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจยังคงแสดงความกังวลว่า การลดลงของเงินเฟ้อนั้นก็เนื่องมาจากกำลังซื้อของประชาชนที่ลดลง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อภาคการขายปลีกโดยในไตรมาสแรกของปี 2012 อัตราการขยายตัวของกลุ่มสินค้าบริโภคบรรลุร้อยละ 5 เท่านั้นเมื่อเทียบกับปี 2011 เศรษฐกิจประสบอุปสรรคนานัปการเนื่องจากผู้บริโภคประหยัดและใช้จ่ายน้อยลง ดร. Dinh Thi My Loan รองประธานและเลขาธิการสมาพันธ์สถานประกอบการขายปลีกเวียดนามเผยว่า            “สถานประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะสถานประกอบการขายปลีกกำลังประสบอุปสรรคหลายอย่าง โดยเฉพาะกำลังซื้อของประชาชนที่ลดลงเนื่องจากการประหยัด  ถึงแม้ว่าราคาสินค้าในปัจจุบันได้ลดลงแล้วแต่ผู้บริโภคก็ยังคงรอเพื่อจะได้ซื้อสินค้าที่ราคาถูกกว่านี้

         

ช่วยเหลือสถานประกอบการขายปลีกฟันฝ่าอุปสรรค - ảnh 2
ลูกค้าหลายคนนิยมการซื้อของในซุเปอร์มาเก็ต (Internet) 

บริษัทวิจัยตลาด Nielsen Vietnam เผยว่า ในปี 2011 ตัวเลขการประหยัดในเวียดนามเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70 ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของชาวเอเชียที่ร้อยละ 59 โดยปัจจุบันผู้บริโภคเวียดนามร้อยละ 63 ให้ความสนใจถึงราคาและพยายามหาวิธีใช้จ่ายอย่างประหยัด             นอกจากปฏิบัตินโยบายลดดอกเบี้ยแล้ว รัฐบาลเวียดนามได้ให้การช่วยเหลือโดยตรงต่อภาคการผลิต ซึ่งรวมไปถึงสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมโดยการอัดฉีดเงิน 2 9 ล้านล้านด่ง ส่วนเพดานดอกเบี้ยของธนาคารชาติเวียดนามก็ได้ลดลงจากร้อยละ 14 เหลือร้อยละ 12 ต่อปี และปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15สำหรับ 4 กลุ่มเป้าหมายนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป พร้อมทั้งอนุญาติให้ธนาคารพาณิชย์ทำการปรับโครงสร้างหนี้ของสถานประกอบการที่ประสบอุปสรรค แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับสภาวะการณ์ดังกล่าว สถานประกอบการขายปลีกเวียดนามต้องเป็นฝ่ายรุกมากขึ้น โดยเฉพาะการพยายามลดต้นทุน การปฏิรูปโครงสร้าง กระจายความเสี่ยง ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี่ที่ทันสมัยในการผลิตและสร้างเครื่องหมายการค้าให้มั่นคง เป็นต้น  ดร. Dinh Thi My Loan รองประธานและเลขาธิการสมาพันธ์สถานประกอบการขายปลีกเวียดนามให้ข้อสังเกตุว่า             “สถานประกอบการควรพยายามปรับปรุงและยืนยันสถานะและยุทธศาสตร์การพัฒนาโดยเฉพาะต้องให้ความสนใจกลุ่มลูกค้าหลักของตน  พร้อมทั้งแนวโน้มการใช้เงินของผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น การเปิดซุเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กและร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น ถือเป็นรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคปัจจุบัน

            ปัจจุบัน ในเวียดนามตลาดขายปลีกที่ทันสมัยหรือ Modern Trade กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยในทั่วประเทศมีซูเปอร์มาเก็ตเกือบ 600 แห่ง ศูนย์การค้า 120 แห่งและร้านสะดวกซื้ออีกจำนวนมาก การขายปลีกในรูปแบบเดิมก็มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านรูปแบบและคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในช่วงที่ลำบากนี้ สถานประกอบการขายปลีกควรร่วมมือกันเพื่อสร้างความมีเสถียรภาพในการค้าขาย ขยายตลาดและสร้างความเชื่อถือต่อผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้ภาคการขายปลีกเวียดนามสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและพัฒนาต่อไปในอนาคต./.

Komentar