 จังหวัดบิ่งเยืองผลักดันภารกิจการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก |
ในสภาวการณ์โลกาภิวัตน์และการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกที่นับวันกว้างลึกในปัจจุบัน จังหวัดบิ่งเยืองได้พยายามส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมให้ยั่งยืนมากขึ้น โดยหน้าที่ที่สำคัญอันดับแรกๆคือการใช้พลังทุกแหล่งเพื่อปฏิบัติโครงการก่อสร้างนครบิ่งเยืองให้เป็นตัวเมืองอัจฉริยะและปฏิบัติยุทธศาสตร์เชิงก้าวกระโดดคือ “บิ่งเยือง Navigator 2021”
ในปี 2018 บิ่งเยืองเป็นท้องถิ่นแห่งแรกของเวียดนามที่ได้รับการรับรองให้เป็นหนึ่งใน 21 นครและภูมิภาคที่มียุทธศาสตร์การพัฒนาเป็นตัวเมืองอัจฉริยะดีเด่นระดับโลกประจำปี 2019 มีความคล่องตัวในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและสามารถดึงดูดแหล่งลงทุนต่างๆ
นิมิตหมายที่น่าประทับใจในด้านการต่างประเทศของจังหวัดในปี 2018 คือ การได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมาคมตัวเมืองวิทยาศาสตร์โลก WTA – บิ่งเยือง และฟอรั่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย Horasisซึ่งเป็นสองกิจกรรมระดับโลกและเป็นโอกาสให้จังหวัดบิ่งเยืองเรียนรู้ประสบการณ์ แนะนำศักยภาพและดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยมีตัวแทนระดับสูงของกลุ่มบริษัทรายใหญ่ เครือบริษัทข้ามชาติจาก 60 ประเทศและดินแดนเข้าร่วม นายเจิ่นแทงเลียม ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัด บิ่งเยืองยืนยันว่า “นี่คือกิจกรรมพิเศษในด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ซึ่งเปิดโอกาสให้จังหวัดได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในแง่มุมที่หลากหลายและเรียนรู้ประสบการณ์เกี่ยวกับการทำธุรกิจแบบใหม่และรูปแบบการพัฒนาที่ทันสมัยและเป็นแนวโน้มในปัจจุบัน ซึ่งมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นและจำกัดความเสี่ยงในกระบวนการพัฒนาเป็นตัวเมืองอุตสาหกรรมที่ทันสมัย และหาทางใช้แหล่งพลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงและมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจให้คล่องตัว ปรับตัวและเตรียมพร้อมให้แก่การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาตัวเมืองอัจฉริยะในจังหวัดบิ่งเยืองในเวลาที่จะถึง
จากการมีบรรยากาศการลงทุนที่โปร่งใสและน่าดึงดูดใจ พร้อมกับการบริหารที่เน้นถึงกิจกรรมการต่างประเทศ ในเวลาที่ผ่านมา บิ่งเยืองยังเป็นจังหวัดที่มีความคล่องตัวในการผสมผสานและสามารถดึงดูดแหล่งเงินทุนได้จำนวนมาก โดยจนถึงขณะนี้ จังหวัดบิ่งเยืองอยู่อันดับ 3 ของประเทศ รองจากนครโฮจิมินห์และกรุงฮานอยเกี่ยวกับการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีโครงการลงทุนที่ใช้เงินทุนจดทะเบียนเกือบ 3หมื่น3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกว่า 3,600 โครงการ ใน 6 เดือนแรกของปี 2019 เงินทุนเอฟดีไออยู่ที่เกือบ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2018 และเพิ่มเป้าหมายของปี 2019 ร้อยละ 3.5 นายจิ่งแทงลองรองผู้อำนวยการสำนักงานวางแผนและการลงทุนจังหวัดบิ่งเยืองเผยว่า “บิ่งเยืองดึงดูดการลงทุนในอาชีพที่หลากหลาย เช่น การแปรรูป การผลิต การบริการ โดยเฉพาะดึงดูดสถานประกอบการที่มีเงินลงทุนสูง ยั่งยืนและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย อย่างเช่น ภาคการแปรรูปได้ดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีโครงการโลจิสติกมูลค่า 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีโครงการพัฒนาตัวเมือง 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ยังมีโครงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติงมูลค่ากว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายถึงสามารถดึงดูดการลงทุนในภาคต่างๆ โดยเฉพาะให้ความสนใจถึงโครงการที่มีเงินทุนสูงและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย”
ผลสำเร็จดังกล่าวมาจากการส่งเสริมกิจกรรมการต่างประเทศของทางการจังหวัด โดยเฉพาะการทูตทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้อำนวยความสะดวกให้แก่การส่งเสริมการค้าและดึงดูดการลงทุน ปี 2019 ทางการจังหวัดฯได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือมิตรภาพกับท้องถิ่นต่างชาติ 10 แห่ง
แต่ละปี ทางการจังหวัดได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศ รวมทั้งคณะทูตานุทูตและนักธุรกิจรายใหญ่ พร้อมทั้งจัดการประชุมส่งเสริมการค้าและความร่วมมือในตลาดที่มีศักยภาพ เช่น ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สิงคโปร์ อิตาลี เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ สหรัฐและแคนาดา ตลอดจนร่วมมือกับกงสุลใหญ่สถานทูตประเทศต่างๆ ณ นครโฮจิมินห์จัดการสนทนาระหว่างผู้บริหารจังหวัดฯกับสมาคมนักธุรกิจต่างชาติและตัวแทนบริษัทต่างชาติที่กำลังประกอบธุรกิจในจังหวัดบิ่งเยือง โดยมีวัตถุประสงค์ประชาสัมพันธ์ศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าของท้องถิ่นแล้วก็แสวงหาโอกาสผลักดันความร่วมมือกับหุ้นส่วนในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและพัฒนาตัวเมือง
การส่งเสริมกิจกรรมการต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจคือหนึ่งในหน้าที่สำคัญในแผนการพัฒนาในยุคใหม่ของจังหวัดบิ่งเยือง ซึ่งภาพลักษณ์เกี่ยวกับจังหวัดบิ่งเยืองที่คล่องตัวได้ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศและช่วยให้บิ่งเยืองกลายเป็นจังหวัดอุตสาหกรรมหลักของเวียดนามในปี2019 บิ่งเยือง จะจัดฟอรั่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย Horasisในระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน โดยจะมีแขกรับเชิญประมาณ 400 คนจาก 60 ประเทศและดินแดนเข้าร่วม รวมทั้งตัวแทนระดับสูงของเวียดนามประมาณ 350 คน ซึ่งถือเป็นโอกาสให้ทางการท้องถิ่นประชาสัมพันธ์และดึงดูดการลงทุนมากขึ้น.