 |
| ท่าน NguyễnTấnDũng นายกรัฐมนตรีให้การต้อนรับพลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัด รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไทย (Internet) |
( VOVworld ) - การส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านกองทัพระหว่างเวียดนามกับไทยเป็นเหตุการณ์เด่นในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเยือนเวียดนามของคณะเจ้าหน้าที่ทหารของกระทรวงกลาโหมไทยนำโดยพลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัด รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไทย ในโอกาสนี้ ท่าน NguyễnTấnDũng นายกรัฐมนตรีได้ให้การต้อนรับคณะโดยยืนยันว่า เวียดนามจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อร่วมกับไทยส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และเสนอให้กระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศปฏิบัติกิจกรรมร่วมมือด้านการป้องกันประเทศที่ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกัน โดยเฉพาะ ความร่วมมือในการลาดตระเวนร่วมในทะเล ส่วนพลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัด ได้ยืนยันว่า กระทรวงกลาโหมไทยจะประสานกับกระทรวงกลาโหมเวียดนามในการปฏิบัติข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศที่ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันเพื่อมีส่วนร่วมผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศ ก่อนหน้านั้น คณะผู้แทนกระทรวงกลาโหมเวียดนามนำโดยพลเอก PhùngQuangThanh ได้มีการเจรจากับคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหมไทยซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แจ้งให้ทราบกันเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจสังคมของแต่ละประเทศ ประเมินผลของความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมในเวลาที่ผ่านมา ภายหลังการเจรจา รัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศซึ่งเป็นพื้นฐานทางนิตินัยเพื่อผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น การสนทนาเกี่ยวกับการป้องกันประเทศ การฝึกอบรม การลาดตระเวนร่วมในทะเล การรับมือกับการท้าทายจากปัญหาความมั่นคงไม่ตามแบบและการพัฒนาแหล่งบุคลากรเพื่อขยายสัมพันธไมตรี ความเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ในกรอบการเยือนเวียดนาม คณะผู้แทนกระทรวงกลาโหมไทยยังได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนกรมทหารที่ 921 กองพลที่ 371 สังกัดกองทัพอากาศของกระทรวงกลาโหมเวียดนาม
ในขณะเดียวกัน พลโท VõVănTuấn รองเสนาธิการใหญ่กองทัพประชาชนเวียดนามก็ได้ให้การต้อนรับพลโท ธนยศ พริ้งทองฟู ผอ.สำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคงกองทัพบกไทยในโอกาสมาเยือนเวียดนาม ในการนี้ พลโท ธนยศ พริ้งทองฟู ได้แจ้งให้พลโท VõVănTuấn รับทราบเกี่ยวกับผลการเจรจาระหว่างคณะผู้แทนของไทยกับกรมเศรษฐกิจแห่งกระทรวงกลาโหมเวียดนามโดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ปัญหาความยากจนและสร้างสรรค์แนวชายแดนที่ยั่งยืน ส่วนพลโท VõVănTuấn ได้ให้ความสำคัญต่อการประสานงานและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในการแก้ปัญหาความยากจนให้แก่ประชาชนในเขตชายแดน การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนและการเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกองทัพซึ่งจะช่วยขยายรูปแบบและวิธีการทำงานในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การรักษาความมั่นคงและการเมืองในเขตชายแดน
 |
| การประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน (Internet) |
สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนหรือ AMEM ครั้งที่ 30 ที่มีขึ้น ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา นาย LêDươngQuang รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้เจรจากับนาย อารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทยโดยทั้งสองฝ่ายได้อนุมัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานเวียดนาม-ไทยและแสดงความปรารถนาที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานเพื่อร่วมกันพัฒนา ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะสร้างสรรค์ฟอรั่มพลังงานทวิภาคีเพื่อหารือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และส่งเสริมโครงการร่วมมือในด้านพลังงาน ผลักดันความร่วมมือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาไฟฟ้าและพลังงานร่วม พร้อมทั้งจะนำรูปแบบและระเบียบการที่เหมาะสมมาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพความร่วมมือในด้านพลังงานระหว่างสถานประกอบการของทั้งสองประเทศ
 |
| ไทยจะร่วมมือกับเวียดนามในการส่งออกยางพารา (Internet) |
ไทยจะร่วมมือกับเวียดนามในการส่งออกยางพาราโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดราคาและปริมาณยางพาราในตลาดโลกอย่างเป็นฝ่ายรุกและเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวสวนยาง นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยได้เผยว่า 3 ประเทศที่ส่งออกยางธรรมชาติมากที่สุดในโลก ได้แก่ ไทย อินโดนีเซียและมาเลเซียควรส่งเสริมความร่วมมือกับเวียดนามเพื่อสามารถกำหนดราคาและปริมาณการส่งออกยางพาราในตลาดโลกซึ่งจะช่วยให้ชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มมากขึ้นโดยไทยจะผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามซึ่งเป็นประเทศส่งออกยางธรรมชาติอันดับ 4 ของโลกผ่านมาตรการทางการทูต
 |
| เวียดนามเป็นประเทศที่ส่งออกกาแฟโรบัสต้ามากเป็นอันดับหนึ่งของโลก (Internet) |
สมาคมผู้ปลูกกาแฟบวนมาถวดได้ว่าจ้างบริษัทกฎหมายติลลิกีแอนด์กิบบินส์ทำเรื่องจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของกาแฟบวนมาถวดต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาของไทยซึ่งถือเป็นเครื่องหมายการค้าแรกของเวียดนามและของอาเซียนที่ยื่นขอจดทะเบียนเพื่อคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทย กาแฟบวนมาถวดเป็นหนึ่งใน๒๕สินค้าที่มีสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ได้รับการคุ้มครองในเวียดนามโดยพันธุ์กาแฟบวนมาถวดที่มีชื่อเสียงคือโรบัสต้าและปัจจุบัน เวียดนามเป็นประเทศที่ส่งออกกาแฟโรบัสต้ามากเป็นอันดับหนึ่งของโลก./.